หนึ่งปีมีครั้ง “หมากเงาะป่า”หรือ “หมากคายข้าว”  ผลไม้อีสานที่หาทานยาก แถมมีสรรพคุณ สมุนไพร แก้ปวดเมื่อย บำรุงเลือด

ที่บริเวณสี่แยกช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้พบกับกลุ่มชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ได้พากันนำ เห็ดและผลไม้ป่าตามฤดูกาลมาวางขาย โดยเฉพาะ “หมากเงาะป่า”หรือ“หมากคายข้าว” ผลไม้อีสานที่หาทานยาก แถมมีสรรพคุณ สมุนไพร แก้ปวดเมื่อย บำรุงเลือด ขายดิบ ขายดี เพราะหนึ่งปีมีครั้งเดียว จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท พอมีรายได้เสริมจากฤดูการทำนาวันละ 500-800 บาท

"หมากเงาะป่า” หรือ “หมากคายข้าว”  ผลไม้อีสานที่หาทานยาก ลักษณะไม้เถาเนื้อแข็ง ยาว 10 - 20 เมตร ผลเงาะป่า จะมีขนแข็ง คล้ายหนาม เหมือนผลเงาะ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกสีแดงส้ม มีเนื้อใสฉ่ำน้ำหุ้มเมล็ด มีรสเปรี้ยวอมหวาน ออกดอกราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ผลสุกราวเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม พบตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ชาวบ้านอีสาน ใช้เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน โดยใช้ เปลือกต้น ต้มน้ำดื่ม แก้กระษัยเส้น (เป็นอาการผิดปกติของสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกายและเส้นเอ็น มีอาการได้หลายแบบ ส่วนใหญ่เป็นอาการอักเสบปวดเกร็งของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นขาและท้อง) แก้ปวดเมื่อย แก่นหรือเปลือกต้น แช่น้ำดื่ม บำรุงโลหิต ลำต้น เป็นยาเย็น เข้ายาบำรุงกำลัง

จากการสอบถาม นางอริสา ปลื้มจิตร อายุ 37 ปี ลูกค้า เล่าว่า เงาะป่ามีรสเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ตนมาซื้อไปรับประทานบ่อย จะมาซื้อทุกปี ถือเป็นผลไม้ป่าหารับประทานยาก หนึ่งปีจะมีแค่ครั้งเดียว ช่วงหน้าฝนต้นเป็นเครือเป็นเถา มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร

ด้าน นางสุนีย์ ผาสุก อายุ 46 ปี แม่ค้าเงาะป่า เล่าว่า “หมากเงาะป่า” ภาษาอีสาน เรียก“หมากคายข้าว” จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท หายากปีหนึ่ง หาได้เพียง 2-3 ครั้ง วันหนึ่งเก็บได้ 2-3 ตะกร้า ถ้ามีเยอะ พอมีรายได้วันละ 500-800 บาท