กรณีกรมศิลปากรนำคณะสื่อมวลชนสัญจรเยี่ยมชมการดำเนินโครงการอนุรักษ์ปฎิมากรรม เพื่อแก้ไขปัญหาโบราณสถานที่ถูกทาสีทองในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีทั้งหมด 9 วัดที่ถูกทาสีทอง แต่เลือก 3 วัดในการอนุรักษ์ประติมากรรมลอกสีทองออก คือ วัดโพธาราม อ.อู่ทอง วัดลาวทอง และวัดไชนาวาส อ.เมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากเสียหายหนัก โดยจะอนุรักษ์ในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน เช่น ใบเสมา ซุ้มประตู
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 สิงหาคม 2562 พระปลัดกัลยวรรธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วัดโพธาราม เป็นวัดเก่าแก่วิหารหลังนี้มีอายุยาวนานกว่า 400 ปีที่ผ่านมาได้เกิดการชำรุดทรุดโทรม ผนังวิหารร้าว จนชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปในวิหาร เพราะกลัวจะพังถล่มลงมา
เมื่อปี 2557 มีกลุ่มจิตอาสาเดินทางมาที่วัด และมีความประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพในการบูรณะวิหารร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางวัดเห็นว่าเป็นสิ่งดี ไม่ได้ขัดข้อง โดยทางวัดได้ร่วมพูดคุยกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางร่วมกัน จนได้มติเป็นเอกฉันท์ในการบูรณะ ซึ่งมีการบูรณะทั้งในส่วนโครงสร้าง กำแพงโบสถ์ด้านนอก ด้านใน ส่วนการทาสีเหลืองทองนั้น เพื่อต้องการให้วิหารแห่งนี้มีเอกลักษณ์ คือ สีทอง ซึ่งเป็นสีเหลืองทองอร่ามตา ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้าน เห็นว่าสวยงามดี จนมาเกิดเรื่องขึ้นเมื่อทางกรมศิลปากรและสื่อมวลชน ได้เดินทางมาที่วัด เพื่อดูความคืบหน้าในการลอกสีทอง โดยเบื้องต้นได้ลอกที่ซุ้มประตูทั้งสองด้านแล้ว
นายณรงค์ ศรีเหรา อายุ 62 ปี กรรมการวัดโพธาราม กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านไม่มีปัญหาเรื่องการที่กรมศิลปากรจะเข้ามาดูแลจัดการตามโครงการอนุรักษ์ปฎิมากรรม ที่เคยต่อต้านครั้งแรกนั้นเนื่องจากตอนแรกยังไม่ได้รับการชี้แจงจากกรมศิลปฯ ในการจะเข้ามาดูแล แต่ครั้งนี้ทราบว่าจะเข้ามาบริหารจัดการ ทางชาวบ้านก็ยินดี ทราบว่าจะใช้งบประมาณปี 2563 และจะดำเนินการได้ในปี 2564 ที่ผ่านมา
"ที่มีปัญหาเนื่องจากทางกรมศิลปากรไม่ได้เข้ามาบูรณะหรือชี้แจงเรื่องนี้ กระทั่งเกิดเรื่องขึ้น ส่วนบริษัทสีที่มีการนำภาพวิหารไปโพสต์ ก็ไม่ได้สนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางวัด เพราะงบประมาณในการบูรณะ เป็นงบประมาณจากกลุ่มผู้ใจบุญและชาวบ้านในพื้นที่กว่า 4.5 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการบูรณะแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2559 อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางชาวบ้านยินยอมให้กรมศิลปากรเข้ามาบริหารจัดการโดยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ" นายณรงค์ กล่าว
ด้านพระสมุห์ สุประวีณ์ (โจ) ปญญาธโร เจ้าอาวาสวัดลาวทอง กล่าวว่า พระอุโบสถของวัดลาวทอง มีการชำรุดทรุดโทรมมาก จนจะพังทลาย และเมื่อปี 2559 และได้มีกลุ่มผู้ร่วมทางได้เดินทางมาร่วมกันบูรณะวัดร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะเห็นว่าเป็นจิตศรัทธา อันดี แต่ก็ขอไว้ว่าอย่าทาทับตรงหน้าบรรณ หน้าต่าง ประตู โดยสีเหลืองที่ทา ก็เห็นว่าสวยงามดี เนื่องจากชาวบ้านก็มองว่า คือ วัดลาวทอง ก็ต้องเป็นสีทอง ไม่น่าจะเป็นอย่างไร ทราบว่าทางกรมศิลป์ฯจะมาอนุรักษ์ก็ยินดีไม่ขัดข้องอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี