เสียงหัวเราะและรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเด็กๆ บ้านไล่โว่ ขณะเล่นสไลเดอร์ที่เป็นร่องของล้อรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขณะขึ้นจากลำห้วยไล่โว่ที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ด้วยสภาพที่เป็นทางลาดชันขึ้นจากลำห้วย ทำให้รถยนต์แต่ละคันกว่าจะผ่านไปได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องถอยขึ้นลงหลายครั้ง ยิ่งหากจำนวนหลายคันก็จะเกิดเป็นล่องลึก จนกลายมาเป็นสวนสนุกของเด็กที่นี่
นายไพรวัลย์ ยาปัญ หรือ ครูมด ของเด็กที่นี่เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงที่มาของสวนสนุกแห่งนี้ว่า เกิดจากเหตุการณ์วันหนึ่งหลังเลิกเรียนฝนตกอย่างหนัก ตนเองได้เดินทางมาส่งเด็กๆกลับบ้าน พอมาถึงบริเวณนี้ เด็กคนหนึ่งได้ล้มลงในล่องล้อรถ แล้วไหลลงไปในน้ำ ทุกคนต่างหัวเราะชอบใจ ฝนที่ตก ทำเด็กๆเปียกฝน เมื่อเห็นเพื่อล้มแล้วน่าสนุก ทุกคนจึงขออนุญาตตนเล่นบ้าง ตนจึงอนุญาตเนื่องจากเห็นว่าน้ำในลำห้วยไม่ลึกและสถานที่ดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งพอเด็กๆ ได้เล่น ทุกคนก็สนุก มีความสุข ดูได้จากเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่ดังลั่นไปทั้งป่า
จากเหตุการณ์วันนั้นทุกวันนี้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เด็กก็จะชวนให้ตนเองพาไปเล่นสไลด์เดอในลำห้วย จนที่นี่กลายมาเป็นสวนสนุกของเด็กๆ บ้านไล่โว่ไปโดยปริยาย หากวันไหนฝนไม่ตกเด็กๆก็จะช่วยกันเอาน้ำมาราดให้เปียก เพื่อให้ล่องล้อรถลื่น
โดยมีเทคนิคส่วนตัวของเด็กๆ คือก่อนจะเล่นก็ต้องกระโดดลงน้ำเพื่อให้เปียกก่อน แล้วจึงจะมาเล่นได้ ประกอบกับขนาดล่องพอดีตัวเด็กและยาวประมาณ 7-8 เมตร ทำให้ปลอดภัย จึทำให้การละเล่นนี้ เป็นที่ติดอกติดใจของเด็กๆ ตนเองเห็นว่าเด็กที่นี่รู้จักนำสิ่งที่อยู่รอบตัวมาสร้างความสุข ให้ตัวเองและเพื่อนๆได้ อีกทั้งกิจกรรมที่เด็กเล่นทำให้เด็กๆ มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ร่วมแรงร่วมใจและทำให้เกิดความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่คณะ จึงบันทึกภาพด้วยมือถือ ก่อนจะนำมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊กของตนเอง ที่ใช้ชื่อว่า ดวงตะวัน ชายขอบ จนมีผู้เข้ามาติดตามดู และพูดคุยด้วยเป็นจำนวนมาก
นอกจากกิจกรรมสไลด์เดอแล้ว ปกติ วันเสาร์-อาทิตย์ เด็กก็จะมาดูโทรทัศน์ในช่วงเช้าที่โรงเรียน โดยเด็กที่นี่ส่วนใหญ่จะชอบดูละครแนวจักรๆวงศ์ ทางช่อง 7 สี หลังจากนั้นก็จะชวนกันวาดรูป พอสายๆ เด็กก็มักจะขอให้ตนเองพาไปเล่นน้ำตก ข้างๆ หมู่บ้าน ซึ่งปกติก็จะไปกันครั้งละประมาณ 10-14 คน โดยเด็กที่นี่จะว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เล็กๆ ครอบครัวจึงไม่ห่วง โดยบางครั้งหากผู้ปกครองว่างก็จะไปช่วยดูแลเด็กๆ ด้วย จึงเป็นที่มาของภาพที่เด็กๆและครูมด นั่งต่อแถวยาวแล้วช่วยกันสระผมให้กันและกัน ซึ่งภาพดังกล่าวได้รับการพูดถึงและชื่นชม ในความรักที่ครูมดและเด็กๆ มีให้แก่กัน
นอกจากนั้นยังมีภาพที่ครูมดและเด็กๆชวนกันไปเยี่ยมไร่ของผู้ปกครอง ระหว่างกลับจากเล่นน้ำตก โดยมีกาเก็บผักในไร่เช่นแตง ลูกกระเจี๊ยบ หน่อไม้และหนอนรถด่วน เพื่อนำของที่หาได้นำมาทำอาหารกินที่โรงเรียน
นายไพรวัลย์ ยาปัญ หรือที่เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านไล่โว่ เรียกกันจนติดปากว่า ครูมด เป็นชาวนครพนม อายุ 40 ปี ปัจจุบันเป็นครูอัตราจ้าง งบวิกฤต ครูมดเริ่มต้นชีวิตการเป็นครูที่บ้านไล่โว่ เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นครูอาสา จากโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (มูลนิธิเด็กฯ)
ด้วยความใฝ่ฝันที่อยากเป็นครูในพื้นที่ธุระกันดาร เพื่อสอนให้เด็กๆได้อ่านออกเขียนได้ 12 ปี ที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากร่วมกับเด็กๆที่นี่ จนวันนี้สำหรับเด็กๆที่นี่ครูมดเป็นมากกว่าครู ครูมดเป็นหมอเมื่อเด็กไม่สบาย ครูมดเป็นพ่อแม่เมื่อเด็กขาดโอกาส
ปัจจุบัน ครูมดมอบโอกาสดีๆให้เด็กๆที่นี่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยการหาทุนสนับสนุนให้เด็กๆได้เรียนต่อจำนวนหลายคน จนอาจชาวบ้านที่นี่มีความรู้สึกว่า ครูมดคือแสงเทียนที่ส่องนำพาชีวิตเด็กๆบ้านไล่โว่ ให้หลุดพ้นจากหลุมดำด้านการศึกษา ทุกวันนี้เด็กๆที่นี่เริ่มมองเห็นอนาคต จึงไม่แปลกที่วันนี้ ครูมดจะเป็นที่รักของเด็กๆและเป็นที่เคารพ ของชาวบ้านไล่โว่
บ้านไล่โว่ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง เป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญ การเดินทางในฤดูฝนต้องเดินเท้า บนเส้นทางเดินที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน และมีลำห้วยน้อยใหญ่ หลายลำห้วยที่ต้องข้าม ไม่มีไฟฟ้าและสิ่งอำนายความสะดวกใดๆในพื้นที่ มีระยะทางห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี 38 ก.ม.
ติดตามให้กำลังใจครูมดได้ที่ FB ดวงตะวัน ชายขอบ หรือส่งกำลังใจผ่าน จม.ให้ครูมดและเด็กบ้านไล่โว่ ได้ที่นายไพรวัลย์ ยาปัญ (ครูมด) โรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านไล่โว่ หมู่ที่ 4 บ้านไล่โว่ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี