"ชบาแก้ว" ลูกช้างน้อยขนตางอน "ซุปตาร์" ประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่พลัดตกท่อจนหลงฝูงและได้ถูกเจ้าหน้าที่นำมาอนุบาลดูแลห่างจากแม่มากว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งถือว่านานเกินไปทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯประจำประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวต้องเร่งเตรียมความพร้อมของลูกช้างน้อยชบาแก้ว เพื่อส่งกลับคืนโขลงให้เร็วที่สุด
"ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" ได้สัมภาษณ์นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ถึงขั้นตอนการดูแล ชบาแก้ว ลูกช้างป่าตัวดังกล่าว ซึ่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เปิดเผยว่า โดยธรรมชาติของช้างที่เคยอยู่กับแม่แต่พลัดตกท่อเราจึงต้องนำลูกช้างมาพยาบาลและส่งเจ้าหน้าที่อีกทีมออกติดตามร่องรอยโขลงช้างที่พลัดพรากจากชบาแก้ว เพราะหากทิ้งช่วงเวลานานเกินไปและลูกช้าง ชบาแก้ว ไม่ได้กินนมแม่ช้างก็จะส่งผลกระทบต่อลูกช้างน้อยตัวนี้ได้
"หากไม่ได้กินนมแม่ช้างด้วยกันเขาจะเป็นโรคมวลกระดูก หรือกระดูกรับน้ำหนักตัวไม่ได้ ซึ่งปกติแล้วลูกช้างจะกินนมแม่ช้างประมาณ 3 ปี และจากนั้นเขาจะกินหญ้า ไผ่ ผลไม้อื่นๆแทนและเหตุที่ต้องเร่งส่งชบาแก้วคืนสู่ป่าให้เร็วที่สุดนั้น เพราะเดี๋ยวแม่ช้างจะจำลูกช้างไม่ได้ แต่ตอนนี้ทีมติดตามโขลงช้างเกิดปัญหาด้วยฝนที่ตกหนักจึงยากที่จะแกะรอยโขลงช้าง"
ขณะที่ขั้นตอนการฝึกชบาแก้วก่อนปล่อยคืนสู่ป่านั้น นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บอกกับ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" ว่า เริ่มจากการตรวจวัดอุณหภูมิลูกช้างก่อนเพื่อดูอาการเจ็บป่วย จากนั้นก็ให้นมและปล่อยให้เขาวิ่งเล่นในคอก คือ ให้ออกกำลังกายด้วยตัวเอง เมื่อเขาเหนื่อยก็จะนอน ซึ่งเขาจะใช้เวลานอนประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็จะตื่นมาเล่นต่อ
จากนั้นเวลา 16.00 น. ถึง 18.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่ "พี่เลี้ยง" พาไปออกกำลังกายในป่า เพื่อฝึกให้เขาอยู่กับป่ากำลังขา โดยการ "เดินข้ามขอนไม้" และพาลงห้วยเพื่อให้เขาหัดใช้งวงกวักน้ำ ซึ่งตอนนี้เขาใช้งวงกวักน้ำเข้าปากเป็นแล้ว เมื่อฝึกออกกำลังกายเสร็จเราก็จะพาเดินกลับคอก โดยใช้อีกเส้นทางคือจะเป็นเส้นทางที่มี "ขวากหนาม" ก็จะสอนให้เขารู้จักหลบหลีกและคิดเองว่าจะไปทางไหนที่ตัวเขาจะปลอดภัย
ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเขาชินกับพื้นที่แล้ว เราจะนำ "มูลช้างใหม่" มาอาบน้ำชโลมตัวเขาและทุกครั้งเจ้าหน้าที่จะสวมถุงมือเพื่อไม่ให้มีกลิ่นมนุษย์ติดตัวช้าง แต่ก่อนจะพากลับคืนป่าได้นั้นเราต้องทำให้ลูกช้างแข็งแรงก่อน เมื่อเรามั่นใจว่าเขาแข็งแรงทนต่อสภาพแวดล้อมในป่าได้แล้วก็จะนำชบาแก้วใส่รถขึ้นไปปล่อยใน "คอกไม้ไผ่" บนหลังเขาที่สร้างไว้ จากนั้นก็จะนำอาหารไปวางล่อ
"โดยสัญชาตญาณเมื่อลูกช้างหิวก็จะร้องโวยวายเสียงดัง และเสียงของมันก็จะนำพาโขลงช้างมาหา จากนั้นเราก็มีหน้าที่ติดตามดูโขลงช้างต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าแม่ช้างรับลูกช้างกลับเข้าโขลง ซึ่งเรามั่นใจว่าภารกิจนำลูกช้างคืนสู่ป่าในครั้งนี้จะสำเร็จ ถึงแม้จะแค่ 60 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพราะเราเอาเค้ามาดูแลห่างจากแม่มานานกว่า 4 เดือนแล้ว ถ้านานกว่านี้เกรงว่าแม่ช้างจะจำลูกช้างไม่ได้" นายทวีป กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี