คนเราหากขยันทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยโชควาสนา ประหยัด อดทน คือ คาถาป้องกันความยากจน ถ้าปฏิบัติได้รับรองไม่อดตายแน่นอน
อย่างเช่น นายวรโชติ สุรวิชัย ชาวกรุงเทพมหานคร โดยกำเนิด ทำการเกษตร ตั้งแต่เล็กจนวัยหนุ่ม นานวันเกิดความเบื่อหน่ายสังคมเมืองหลวงที่เข้าใจว่าเป็นเมืองสวรรค์ กระทั่งพบรักสาวงามต่างจังหวัดแต่งงานเป็นสามี-ภรรยากัน จากนั้นหันหลังให้กับเมืองหลวง มุ่งหน้ากลับอีสานบ้านเกิดภรรยา พลิกที่นาทำเกษตร ทว่าพบปัญหา ที่ดินไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน อ.อำนาจเจริญ ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นจังหวัดน้องใหม่ หนทางค้าขาย เศรษฐกิจดีแน่นอน จึงย้ายไปอยู่จังหวัดอำนาจเจริญ รวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่ง ซื้อที่ดินติดถนนสายหลักชยางกูร (อำนาจเจริญ - อุบลราชธานี) ทำเป็นโรงเพาะเห็ด เต็มรูปแบบจำหน่ายเห็ดหูหนูทั่งภาคอีสานสร้างรายได้เป็นอย่างดี
นายวรโชติ สุรวิชัย อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ที่ 2 ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าความหลังให้ฟังว่า เดิมเป็นชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งทุกคนเชื่อว่า เป็นเมืองสวรรค์ เมืองศิวิไลท์ สมัยเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เจริญมากนัก ยังคงมีกลิ่นท้องไร่ท้องนาหลงเหลืออยู่ ซึ่งประกอบอาชีพทำนาตั้งแต พ่อ แม่ จนกระทั่ง มีการปลูกบ้านเรือน หมู่บ้านจัดสรร ผุดขึ้นราวดอกเห็ด พื้นที่ทำนาปลูกข้าว เริ่มหดหาย ลดน้อยลง กลายเป็นสังคมเมืองใหญ่ ความเจริญเข้ามาแทนที่คนในสังคมทำมาหากินตัวเป็นเกลียว ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ความเอื้ออาทร มีน้ำใจต่อกันจางหาย ความเห็นแก่ตัวเข้ามาแทนที่เกิดความเบื่อหน่าย คงอยู่ร่วมสังคมไม่ได้แน่ ประกอบกับพบสาวอีสาน จึงตกลงแต่งงานกัน ซึ่งเป็นภรรยาจนปัจจุบันนี้
ต่อมา จึงย้ายกลับบ้านเกิดภรรยา คือ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี พลิกดินที่นา ทำการเกษตร กว่า 10 ปีเป็นเพราะที่นาไม่เหมาะสมและทราบว่า อ.อำนาจเจริญ ยกฐานะเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นจังหวัดใหม่ หนทางค้าขายเศรษฐกิจดีแน่นอน จึงรวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่ง ซื้อที่ดินจำนวน 15 ไร่ติดถนนสายหลักชยางกูร (อำนาจเจริญ - อุบลราชธานี) พื้นที่ ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ทำเป็นโรงเรือนเพาะเห็ดหูหนู จำหน่ายทั่วภาคอีสานและผู้สนใจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 กระทั่งปัจจุบัน สร้างรายได้ดีมาก
ส่วนวิธีเพาะเห็ดหูหนูนายวรโชติ สุรวิชัย บอกพอเข้าใจว่าจากการไปอบรมที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตร กรุงเทพมหานครหลายวัน จึงมีความรู้ความเข้าใจดี เรื่องการเพาะเห็นหูหนูและสามารถเพาะเห็นหูหนู จำหน่ายตั้งแต่ปี 47 จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 15 ปี ซึ่งเริ่มแรก ให้นำขี้เลื่อย ซึ่งผสมกับอาหารเสริม ในอัตราส่วนที่พอเหมาะ ต่อมา บรรจุลงในถุง เสร็จแล้ว นำถุงใส่เครื่องนึ่ง เพื่อฆ่าเชื้อใช้เวลา 3.30-4.00 ชั่วโมง เปิดฝาครอบออกทิ้งไว้ให้เย็น
ต่อมานำมาหยอดเชื้อเห็ดที่ถังบ่ม ที่วางชั้นพักในโรงเรือน หากเป็นเห็ดนางฟ้า ใช้เวลา 1 เดือน ส่วนเห็ดหูหนูใช้เวลา 2 เดือนจากนั้นนำไปแขวนในโรงเรือน โดยการเปิดดอก กรีดถุงให้เห็ดออกดอกภายใน 1 สัปดาห์เห็ดก็จะผลิออกดอกและทยอยเก็บขายได้ ซึ่งราคาซื้อขาย อ้างอิงกับราคาตลาดในกรุงเทพฯเป็นหลัก ซึ่งเห็ดหูหนู 1 กิโลกรัม จำหน่าย ราคา 50-70 บาท
นายวรโชติ สุรวิชัย คนเมืองหลวง มาเอาดีการเพาะเห็ดขายที่ภาคอีสาน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนพร้อมภรรยาสู้ฝ่าฟันอุปสรรคชนิดที่ว่า ล้มลุกคลุกคลานมาหลายสิบปี กระทั่งทุกวันนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ อันนำไปสู่รางวัลแห่งความสำเร็จ โดยส่งบุตรชายเรียนสำเร็จระดับปริญญาโท และรับราชการทหารอากาศ ส่วนบุตรสาวก็สำเร็จระดับปริญญาตรีและไม่ให้ไปทำงานที่ไหนโดยให้สานต่องานที่บ้านและมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จก็คือไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา ขยัน ประหยัด อดทน เรียกว่า คาถา แก้จน
สำหรับใครที่ต้องการ รายละเอียดเพิ่มเติม เรื่อง การเพาะเห็ด เพื่อนำไปเป็นอาชีพให้ติดต่อที่ โทร. 08-1593-0404 และ 08-8114-5892 ได้ทุกวันโดยจะบอกจะสอนให้อย่างไม่ปิดบัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี