ชาวสตูลโวยจังหวัดทำงานช้า-หวั่นไม่ทันการนายทุนสัมปานเหมืองหินเขาโต๊ะกรัง ผอ.รร.ยื่นหนังสือจี้ตั้งกรรมการร่วมตรวจสอบ
ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในนามกลุ่มผู้คัดค้านการให้สัมปทานเหมืองแร่หินเขาโต๊ะกรังนำโดยนายมูหัมหมาด ปะดุกา ผู้อำนวยการโรงเรียนอรุณศาสตร์ มูลนิธิ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เพื่อคัดค้านคำชี้แจงกรณีขอให้การจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชน และรายงานผลการจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชนในพื้นที่ขอประทานบัตร ที่ 4/2559 เป็นโมฆะ
ทั้งนี้ ในหนังสือระบุว่า จังหวัดสตูลได้มีหนังสือชี้แจงกรณีประชาชนขอให้การจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชน และรายงานผลการจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชนในพื้นที่ขอประทานบัตร ที่ 4/2559 เป็นโมฆะ โดยในหนังสือชี้แจงแจ้งว่าได้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสตูลได้ดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องแล้ว และดำเนินการถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้งได้จัดส่งรายงานให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่พิจารณาต่อไปแล้ว และหากผู้ออกประทานบัตรไม่สามารถวินิจฉัยให้ได้ข้อยุติ ก็ให้สั่งเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ให้มีการทำประชามติต่อไป
ในหนังสือระบุว่า กลุ่มผู้คัดค้านและผู้ได้รับผลกระทบที่เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นในวันดังกล่าว ได้ร่วมตรวจสอบคำชี้แจงแล้ว มีความเห็นดังนี้
1. จังหวัดสตูลล่าช้าในการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีหนังสือชี้แจงกลับมาภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนถึง 112 วัน ซึ่งไม่เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ตามหนังสือที่ มท 0208.3/ว 3576 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2540 โดยให้พิจารณาข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยทันที ซึ่งความล่าช้าดังกล่าวอาจส่งผลให้มีการให้ประทานบัตรได้
2. การชี้แจงดังกล่าวเป็นการชี้แจงจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสตูลซึ่งเป็นผู้ถูกร้องเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ตั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบขึ้นมาร่วมตรวจสอบ จึงไม่มีความชอบธรรมและไม่ถูกต้องตามแนวทางแก้ไขเรื่องร้องเรียน
3. ในคำชี้แจง ไม่สามารถตอบประเด็นข้อคัดค้านของประชาชนได้ และบ่ายเบี่ยงชี้แจงในหลายประเด็น เช่น อ้างว่ามีผู้แสดงตนมาจากโรงเรียนอรุณศาสตร์วิทยามูลนิธิ ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งข้อเท็จจริง คือ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล กีดกันไม่ให้ผู้แทนจากโรงเรียนฯ เข้าร่วม โดยอ้างว่าที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนอยู่นอกพื้นที่ ซึ่งประชาชนคัดค้านตามเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นจริงในวันดังกล่าวพร้อมหลักฐานแสดง อีกทั้งคำคัดค้านได้อ้างอิงตามข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน
ในหนังสือยังระบุด้วยว่า ขอคัดค้านคำชี้แจงดังกล่าว และขอให้เร่งดำเนินการดังนี้
1. ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและประชาชน เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยทันที
2. ขอให้มีคำสั่งให้การรับฟังความคิดเห็นของชุมชนและรายงานผลครั้งนี้เป็นโมฆะ และเพิกถอนการจัดเวทีดังกล่าว โดยไม่นำเอาการจัดเวทีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการพิจารณาการออกใบอนุญาตประกอบกิจการเหมืองแร่ใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอย่างแท้จริง
3. ให้ยกเลิกการประกาศให้ "เขาลูกช้าง" หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เป็นแหล่งหินอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าน้ำซับซึม ตาม พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสี่
"ภายใน 30 วัน หากยังคงล่าช้า ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบขอใช้สิทธิตามกฎหมายโดยการใช้กระบวนการทางศาลปกครองต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความคุ้มครองจากท่านด้วยดี" หนังสือระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี