วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
กรมอุทยานฯ เผยปัญหาการล่านกหิน พร้อมเพิ่มมาตรการป้องกันเต็มรูปแบบ

กรมอุทยานฯ เผยปัญหาการล่านกหิน พร้อมเพิ่มมาตรการป้องกันเต็มรูปแบบ

วันศุกร์ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562, 18.49 น.
Tag : กรมอุทยานฯ เผยปัญหาการล่านกหิน พร้อมเพิ่มมาตรการป้องกันเต็มรูปแบบ
  •  

28 กันยายน 2562 เพจเฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า “ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้ระบุข้อความว่า...กรมอุทยานเผยสภาพปัญหาการล่านกชนหินในปัจจุบัน​ และมาตรการในการป้องกัน​ ทั้งด้านกฎหมาย​ และสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์กับทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้น


นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ​ระบุว่า​ นกชนหิน Rhinoplax vigil เป็นนกเงือก 1 ใน 13 ชนิดของนกในวงศ์นกเงือกที่พบในประเทศไทย โดยมีสถานภาพเป็นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 และอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (IUCN red list) อีกทั้งจัดอยู่ในบัญชี  1 ตามอนุสัญญาไซเตส

ประชากรนกชนหินในประเทศไทยเป็นกลุ่มประชากรขนาดเล็กมีการประมาณประชากรไม่เกิน 100 ตัว (ข้อมูลจากการประมาณ) โดยพบนกชนหินกระจายในพื้นที่อนุรักษ์ 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี (ความหนาแน่น 1 ตัว/กม2 (มูลนิธินกเงือกแห่งประเทศไทย, 2547-2548) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา (ความหนาแน่น 1.2ตัว/กม2 (Gale & Thomgaree, 2006) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง (ยังไม่มีการสำรวจประชากร)

และจากการติดตามข้อมูลการสร้างรังโดยมูลนิธินกเงือกแห่งประเทศไทยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 - 2562 พบนกชนหินทำรังสำเร็จเฉลี่ยปีละ 2 รัง และในปี 2562 จากการติดตามข้อมูลของสถานีวิจัยสัตว์ป่าคลองแสงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงพบนกชนหินทำรังสำเร็จ 1 รัง

ผอ.สำนักฯ กล่าวต่อไปว่า สภาพปัญหา “การล่านกชนหิน” ในปัจจุบัน​ แบ่งการล่าออกเป็น  2 แบบ คือ​ ล่าเพื่อเอาลูกซึ่งฤดูกาลทำรังประมาณเดือนธันวาคม - พฤษภาคม​ และแบบที่​ 2​ ถูกนายพรานล่าเพื่อเอาโหนก​ นายพรานยิงนกเพื่อเอาโหนก  ขณะที่การดำเนินคดีตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2562 มีคดีการกระทำผิดด้านสัตว์ป่า กรณีของนกชนหิน จำนวน  3 คดี สามารถจับผู้ต้องหาได้จำนวน  5 คน​ นกชนหินที่ยึดมาได้ ยังมีชีวิต จำนวน 3 ตัว เป็นซากจำนวน  1 ตัว

ซึ่งทางองค์กร TRAFFIC ได้ทำการสำรวจติดตามและศึกษาเพื่อประเมินและประมาณขนาดของการค้านกชนหิน Rhinoplax vigil รวมถึงชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ของนกเงือกชนิดพันธุ์อื่นๆบนช่องทางสื่อสังคมออนไลน์หรือเฟซบุ๊กทั้งในกลุ่มเปิดและกลุ่มปิดในประเทศไทยโดยทุกกลุ่มเป็นกลุ่มที่เสนอขายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าต่างๆ

โดยข้อมูลที่พบจากการสำรวจติดตามเป็นระยะเวลา 6 เดือน​ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 - เมษายน 2562 มีประเด็นสำคัญ​ ดังนี้​ พบการโพสต์เสนอขาย อย่างน้อย 236 โพสต์​ ที่เสนอขายชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากนกเงือกมากกว่า 546 ชิ้น ใน 32 กลุ่ม จากทั้งหมด 40​ กลุ่มที่ทำการสำรวจติดตาม​ โพสต์ทั้งหมดถูกเสนอขายในช่วงเวลา 64 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ถึง เมษายน 2562 นกชนหิน คิดเป็นสัดส่วน 83% จากชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์นกเงือกทั้งหมด

แบ่งหมวดหมู่ของชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากนกเงือกที่ถูกเสนอขายออกเป็น 8 หมวดใหญ่ ได้แก่ โหนกหัว, จี้ห้อยคอ, แหวน, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, หัวเข็มขัด, นกสตาฟ และชิ้นส่วนย่อยอื่นๆ​ เครื่องประดับที่พบบางส่วน ถูกประดับตกแต่งด้วยชิ้นส่วนของสัตว์ป่าอื่นๆ รวมไปถึง งาช้าง เขี้ยวเสือ และเล็บเสือ​ ชิ้นส่วนหัวที่สมบูรณ์ของนกเงือกอีก 8 ชนิดพันธุ์ที่พบทั้งหมดมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย​ ถูกพบในการสำรวจติดตามนี้ด้วย โดยนกกกหรือนกกาฮัง Buceros bicornis มีจำนวนมากที่สุด

น.ส.กาญจนา บอกอีกว่า สำหรับมาตรการป้องกันในปัจจุบัน​ กรมอุทยาน​ฯ​ ร่วมมือกับมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือกมหาวิทยาลัยมหิดล​โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.พิไล พูลสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญและกรรมการมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก เป็นหัวหน้าโครงการ ทำวิจัยการทำรังของนกชนหิน เพื่อศึกษาพฤติกรรมสำหรับใช้ในการวางแผนการจัดการและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนการจัดการ​ และเพิ่มการสำรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol) เพื่อเฝ้าระวัง​ การเพิ่มเครือข่ายเฝ้าระวังโดยการเปลี่ยนผู้ล่ามาเป็นผู้พิทักษ์โดยจ้างพรานที่เคยล่ามาเป็นทีมงานวิจัย

ด้านมาตรการเชิงรุก​ได้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการจัดการพื้นที่​เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ที่พบนกชนหินอยู่อาศัย หากิน และทำรังโดยการจัดเจ้าหน้าที่สำรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol)เพิ่มเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจในการเฝ้าระวังดูแลนกชนหินในพื้นที่​ ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานทั้งลักษณะตัว เสียงร้อง ลักษณะรังของนกชนหิน

มีการจัดทำแผนที่การใช้ประโยชน์พื้นที่ของนกชนหินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนการป้องกันและจัดการ​ สนับสนุนการดำเนินการคณะกรรมการพื้นที่อนุรักษ์ (PAC) เพื่อการจัดการและเฝ้าระวังการลักลอบล่านกชนหิน​ การบังคับใช้กฎหมาย และการกำหนดนโยบายการจัดการที่ชัดเจน และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ กรมตำรวจ กรมศุลกากรและหน่วยงานปกครองในการเฝ้าระวัง ปราบปราม และบังคับใช้กฎหมาย​ บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิทัลในการติดตามการซื้อขายซากและผลิตภัณฑ์ของนกชนหินและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รวมทั้งปรับสถานภาพนกชนหินจากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเพิ่มความสำคัญในการกำหนดมาตรการการอนุรักษา​ การสืบสวน สอบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้การตรวจพิสูจน์เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน​ จัดทำแผนแม่บทการจัดการนกชนหินแห่งชาติ

มีการจัดทำแผนที่เส้นทางการล่า ค้า และศูนย์กลางการกระจายสินค้าผิดกฎหมายรวมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่นั้นๆ ร่วมติดตาม​ การฟื้นฟูประชากรนกชนหินในพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นถิ่นอาศัย​ เพิ่มอัตราการรอดตายของลูกนกชนหินในธรรมชาติโดยการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเฝ้าระวังภัยคุกคามทั้งจากสัตว์ผู้ล่าและมนุษย์

จัดทำรังเทียมในพื้นที่อาศัยของนกชนหินเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรังและเพิ่มประชากรในธรรมชาติ​ นำผลงานวิจัยมาวิเคราะห์ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้มาใช้ในการวางแผนการศึกษาแนวทางในการเพิ่มประชากรนกชนหิน​ ส่งเสริมการศึกษา การสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของประชาชน​ เผยแพร่ให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในการรักษาและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติให้กับชุมชนในท้องถิ่น​ สร้างเครือข่าย รัก(ษ์) นกชนหิน รอบพื้นที่อนุรักษ์ที่พบการกระจายของนกชนหิน​ และจัดทำหลักสูตรนกชนหินศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักให้กับเยาวชนในพื้นที่รอบพื้นที่อนุรักษ์ที่เป็นแหล่งอาศัยของนกชนหิน  นอกจากนี้ไทยยังมีเรื่องการอนุวัตตาม CITES กำหนดให้มีการประเมินตนเองด้วยตัวชี้วัด 50 ตัว ครอบคุมด้านบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดีการสนธิกำลังในและระหว่างประเทศการปรับพฤติกรรมลดการบริโภค การสร้างจิตสำนึกร่วมด้วย

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ,Wittawat​ K​ Noul-in​ (Guide​ K)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

สถานทูต ณ กรุงปารีส เตือนคนไทย 2 ต.ค. หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชน คาดผู้ร่วมประท้วงกว่า 5 แสนคน

เปิดคลิป 'เสธ.เบิร์ด' คว้าปัตตาเลี่ยน 'ตัดผมให้พ่อ' ฉลองวันเลื่อนขั้น

ภรรยาสุดปลื้ม! 'เสธเบิร์ด'ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น'พลโท' แฟนคลับแห่ยินดีเพียบ

'ปู มัณฑนา'เล่านิทานบ้าง! ซัดเดือดถึงใคร'ความรู้ไม่มี จัดได้ว่าโง่ อิจฉาอีกช่อง'ติดแฮชแท็กแซ่บ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved