วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ผู้ว่าฯนครพนม รุกคืบร่วมเจรจา 3 ประเทศ สำรวจเส้นทางเศรษฐกิจเชื่อมสัมพันธ์การท่องเที่ยว

ผู้ว่าฯนครพนม รุกคืบร่วมเจรจา 3 ประเทศ สำรวจเส้นทางเศรษฐกิจเชื่อมสัมพันธ์การท่องเที่ยว

วันอาทิตย์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562, 12.26 น.
Tag : สำรวจเส้นทางเศรษฐกิจ รุกคืบร่วมเจรจา 3 ประเทศ ผู้ว่าฯนครพนม เชื่อมสัมพันธ์การท่องเที่ยว
  •  

29 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน  ความคืบหน้าในการสำรวจเส้นทาง(Logistic) ไทย-ลาว- เวียดนาม ผ่านเส้นทางหมายเลข R8 และ R12 กรณี นำโดย นายสมเกียรติ เหล่านาม ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เดินทางเยือนจังหวัดฮาติงห์ และจังหวัดกวางบิงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-27 กันยายน 2562

และในโอกาสเดียวกัน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นำคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม อัยการ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ขนส่งจังหวัดฯ ท่องเที่ยวและกีฬานครพนม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ  เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ(ไทย-ลาว-เวียดนาม) 9 จังหวัด (ไทย-หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร,ลาว-แขวงคำม่วน บอลิคำไซ,เวียดนาม-ฮาติงห์ กวางบิงห์ เหงะอาน) ที่ใช้เส้นทาง R8 และ R12 เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้า


วันแรกของการเดินทาง(25 ก.ย.)ใช้เส้นทาง R8 ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีลักษณะเป็นภูเขาและแคบ สินค้าจากไทยที่นิยมใช้เส้นทางนี้ขนส่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยจะไปผ่านกระบวนการศุลกากรที่ด่านน้ำพาว(ลาว) และด่านเกาแจว(เวียดนาม) ก่อนจะขนส่งสินค้าผ่านเมืองวิงห์และฮานอยตามลำดับ และสามารถส่งต่อไปยังเมืองผิงเสียง จนถึงหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือว่าเส้นนี้มีความสำคัญไม่น้อย เพราะสามารถย่นระยะทางการขนส่งสินค้าไปประเทศจีนได้หลายร้อยกิโลเมตร 

ในวันเดียวกันเมื่อคณะผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เดินทางถึงจังหวัดฮาติงห์ ก็เริ่มทำงานทันที โดยมีนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย รอต้อนรับ และนำไปพบกับ นายเหงียน ทัญ บิ่ญ ประธานสภาประชาชน หรือผู้ว่าราชการจังหวัดฮาติงห์ ซึ่งในการนี้ ผวจ.นครพนม ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางมายังจังหวัดฮาติงห์ นอกจากจะร่วมประชุมด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว คมนาคม วัฒนธรรม การศึกษา  ฯลฯ ยังได้สานความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดนครพนมกับประเทศเวียดนาม

เพราะชาวจังหวัดนครพนมนั้น มีความรู้สึกดีกับชาวเวียดนามมาช้านาน โดยเฉพาะความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ สำหรับปัญหาการคมนาคมเส้นทาง R8 บางช่วงแคบและลาดชัน ยังต้องพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้การขนส่งสินค้าสะดวกขึ้น พร้อมเตรียมเปิดเส้นทางรถโดยสารระหว่างประเทศ(นครพนม-ลาว-ฮานอย) ที่จะเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้

ด้านนายเหงียน ทัญ บิ่ญ ผวจ.ฮาติงห์ กล่าวว่าประเทศเวียดนาม ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เพราะผ่านหลักการพัฒนาเส้นทางสาย  R8 และ R12 เรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากภาคเหนือลงภาคใต้ของเวียดนาม ซึ่งการพูดคุยระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น

รุ่งเช้าวันที่ 26 กันยายน เป็นวันที่ต้องทำงานพร้อมกันหลายจุด ทางคณะจึงแบ่งชุดปฏิบัติงาน 2 ชุด ชุดแรกนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม และหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ที่ใช้เส้นทาง R8 และ R12 ครั้งที่ 22 โดยการประชุมในครั้งนี้ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติตามบันทึกการประชุมคณะผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ครั้งที่ 21 ที่จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ซึ่งการประชุมปรึกษาหารือเริ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พร้อมทั้งได้ลงนามบันทึกการประชุมการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคตร่วมกัน จำนวน 4 ด้าน คือ 1.ด้านการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.ด้านการค้าและการลงทุน 3.ด้านการคมนาคมขนส่ง และ 4.ด้านการเกษตร ทั้งนี้จะมีการจัดการประชุมครั้งที่ 23 ในปี 2563 ณ จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

ส่วนคณะของนายสยาม ศิริมงคล ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานท่าเรือน้ำลึกหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ เพื่อนำข้อมูลไปศึกษาว่าท่าเรือน้ำลึกแห่งนี้ ประเทศไทยจะได้ใช้ประโยชน์ในการขนส่งทางน้ำได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็ออกเดินทางสู่งเมืองดงเห่ย จังหวัดกวางบิงห์ เข้าพบประธานคณะกรรมการประชาชนกวางบิงห์ เพื่อหารือความร่วมมือด้านต่างๆ โดยมีนายธานี แสงรัตน์ เอกราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย เข้าร่วมประชุม

นายสยามฯ  เผยว่า จังหวัดนครพนมและจังหวัดกวางบิงห์เหมือนคู่แฝด เพราะประชาชนทั้งสองจังหวัด มีการเดินทางไปมาหาสู่กันเรื่อยมา การเดินทางมาจังหวัดกวางบิงห์ครั้งนี้ เพื่อต้องการศึกษาเส้นทางที่เชื่อมต่อกับจังหวัดนครพนม เบื้องต้นพบว่าเส้นทาง R8 ผ่านแขวงคำม่วน สปป.ลาวลงมาจังหวัดฮาติงห์ โดยช่วงที่อยู่ในประเทศลาวยังแคบและสูงชัน แม้มีปัญหาแต่นักลงทุนยังมีความจำเป็นใช้ R8 เพราะสืบเนื่องจากเส้นทาง R12 มีความเสียหาย

และในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้รัฐบาลไทยทราบแล้ว และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความต้องการที่จะสนับสนุนในการปรับปรุงถนนสาย R12 โดยจะประสานทางการลาวในการปรับปรุงสาย R12 การเจรจาคืบหน้าไปมาก และหากพัฒนาเส้นทาง R12 เรียบร้อยแล้ว การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะสะดวกมากยิ่งขึ้น

นายสยามฯ  กล่าวต่อว่า  ที่ผ่านมานักธุรกิจไทยได้รับการดูแลจากกวางบิงห์เป็นอย่างดี นอกจากการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ชาวจังหวัดนครพนมยังให้ความสำคัญในด้านประเพณีวัฒนธรรมอีกด้วย จึงใช้ประเพณีวัฒนธรรมเชื่อมความสัมพันธ์กับลาวและเวียดนาม แต่ระยะทางไม่ถึง 300 กม. ต้องใช้เวลาเดินทางมาก จึงต้องจับมือกันเพื่อเกิดความรวดเร็วในการไปมาหาสู่กัน อีกอย่างชาวกวางบิงห์ก็มีญาติอยู่ในจังหวัดนครพนมไม่น้อย มีหลายคนอยากมาแต่ติดขัดเรื่องเส้นทาง และจังหวัดนครพนมกำลังจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงใคร่เชิญนักธุรกิจกวางบิงห์ไปเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษ และปรึกษาข้อกฎหมายศุลกากรไทย ซึ่งเบื้องต้นผู้ประกอบการจะได้สิทธิประโยชน์เรื่องภาษีอากร เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ได้นำสินค้าเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือผู้ประกอบการอาหารทะเลสด แปรรูป ก็เข้าไปศึกษาสิทธิประโยชน์ได้ตลอดเวลา

ด้านนายเตริ่น กง เทวด ผู้ว่าราชการจังหวัดกวางบิงห์ เผยว่าชาวจังหวัดกวางบิงห์มีความรู้สึกดีกับจังหวัดนครพนมมานาน การประชุมครั้งนี้ขอเสนอความเป็นมิตรภาพ เพื่อให้สองประเทศร่วมลงทุนด้านการค้าระหว่างกัน ถนน R12 เป็นเส้นทางแลกเปลี่ยนสินค้า สินค้าของไทยส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค  สินค้าของลาวก็จะเป็นจำพวกปุ๋ย แร่ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ทางจังหวัดกวางบิงห์ส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์การเกษตร และอาหารทะเลแปรรูป ด้วยอารยธรรมจังหวัดนครพนมกับกวางบิงห์คล้ายๆกัน จึงอยากร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม  ที่ผ่านมาการจัดงานรำลึกนอกพื้นที่ถึงโฮจิมินห์ วันที่ 19 พฤษภาคมของทุกปี มีจังหวัดนครพนมเท่านั้นที่จัดได้อย่างยิ่งใหญ่ จึงควรจะมีรถโดยสารระหว่างประเทศ(นครพนม-ลาว-เวียดนาม) หรืออาจจะเพิ่มจังหวัดอุดรฯอีกแห่งก็ต้องมาคุยกันในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง โดยให้ตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน

สำหรับการสำรวจเส้นทางสายเศรษฐกิจทั้ง R8 และ  R12 นั้น สาย R12 รัฐบาลไทยจะปล่อยกู้ให้กับ สปป. ลาว เพื่อนำไปพัฒนาถนน ตั้งแต่เส้นทางท่าแขก แขวงคำม่วน สู่ด่านน้ำพาวและเข้าด่านจาลอของเวียดนาม หากเส้นทางพัฒนาเสร็จ จะเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเข้าสู่ประเทศจีนที่สั้นที่สุด สั้นกว่าเส้นทาง R9 จังหวัดมุกดาหารถึงกว่า 500 กม. โดยถนนสาย R12 มีจุดเริ่มต้นที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) เข้าเขตประเทศลาวที่แขวงคำม่วน ผ่านจังหวัดฮาติงห์ วิงห์ และฮานอยของเวียดนาม ก่อนจะไปสิ้นสุดที่เขตปกครองตนเองกว่างซี

ส่วนเส้นทาง R8 มีจุดเริ่มต้นที่จังหวัดบึงกาฬ เข้าสู่เขตเมืองปากซันของลาว ผ่านเมืองวิงห์ มุ่งสู่กรุงฮานอยของเวียดนาม และไปสิ้นสุดที่กว่างซีเช่นเดียวกัน เส้นทางนี้แคบและลาดชัน จึงมีความจำเป็นต้องขยายถนน เพื่อการขนส่งสินค้าสะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม

ฮาติงห์เป็นจังหวัดทางชายฝั่งตอนกลางเหนือของประเทศเวียดนาม อยู่ติดกับจังหวัดเหงะอานทางทิศเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศใต้ประมาณ 340 กม. ทางทิศใต้ติดกับจังหวัดกวางบิงห์ ทางทิศตะวันตกติดกับประเทศลาว และติดกับทะเลจีนใต้ทางทิศตะวันออก

กวางบิงห์เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ภาคกลางตอนบนของประเทศเวียดนาม เป็นจังหวัดที่มีแผ่นดินแคบที่สุดของประเทศ และเป็นจังหวัดที่เดินทางจากไทยไปใกล้ที่สุดคือระยะทาง 295 กิโลเมตรจากจังหวัดนครพนม

และเหงะอานเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ตอนใต้ของฮานอย จังหวัดนี้เป็นบ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ดับฝันขาโจ๋!!! 'พิชัย'รับทบทวนเงินหมื่นเฟส 3 เซ่นพิษภาษีทรัมป์

ตำรวจเตรียมนำตัว 'สจ.กอล์ฟ' พร้อมลูกน้องรวม 7 คนฝากขังต่อศาลจังหวัดสงขลา

‘โฮเซ มูฮิกา’อดีตปธน.'อุรุกวัย'ผู้สมถะ ถึงแก่อสัญกรรมในวัย89ปี

ล่าแม่ใจยักษ์! ชายต่างด้าวเล่าเห็นกับตา 'ตัวเงินตัวเงิน'ลากซากทารกมากิน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved