วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แถลงนโยบายเชิงโอวาท ประจำปีงบประมาณ 2563 แก่กำลังพลกองทัพเรือ ประกอบด้วย นายทหารชั้นยศนายพลเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ รองผู้อำนวยการสำนักและผู้อำนวยการกองในกรมฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองทัพเรือ ผู้บังคับหน่วยกำลังรบ ระดับผู้บังคับการกรมหรือเทียบเท่า ผู้บังคับการเรือ ผู้บังคับกองพัน ผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยการทัพเรือ หลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ หลักสูตรนายทหารอาวุโส หลักสูตรชั้นต้นพรรคนาวิน นักเรียนนายเรือ/นักเรียนพยาบาลกองทัพเรือ (นักเรียนบังคับบัญชาและตัวแทนนักเรียนแต่ละชั้นปี) และนักเรียนจ่าทหารเรือทุกสายวิทยาการ (ตัวแทนนักเรียนแต่ละชั้นปี) รวมกว่า 1,000 นาย
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 ทุกหน่วยงานของกองทัพเรือได้ผ่าน “ขั้นวางรากฐาน” และต่างได้พัฒนาขีดความสามารถของหน่วยงานตนในทุกองค์และทุกด้าน โดยมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้กองทัพเรือได้บรรลุวิสัยทัศน์กองทัพเรือ พ.ศ.2567 ที่กำหนดว่า “จะเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ” เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2563 จึงได้กำหนดหัวข้อเฉพาะนโยบายสำคัญ เพื่อนำกองทัพเรือไปสู่ “ขั้นรุกคืบหน้า สถาปนาความมั่นคง” (Moving Forward to Ensure Sustainability : MFES) โดยอยู่บนหลักคิดพื้นฐานที่ว่า “ที่มีอยู่ต้องรักษาให้อยู่ แล้วพัฒนาต่อไป” ให้สอดคล้องกับยุคของการรบและการทำงานที่ต้องอาศัยเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) อย่างกว้างขวาง
นโยบายเฉพาะของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2563 ในภาพรวมยังมุ่งดำรงการปฏิบัติในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดกำลังความสามารถ และเหนือภารกิจสิ่งอื่นใด รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยได้กำหนดกรอบทิศทางและแนวทางการปฏิบัติเพิ่มเติม สำหรับหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือและกำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ที่มุ่งพัฒนา “3 องค์ 1 ด้าน” คือ องค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี และด้านการบริหารจัดการ อันเป็นการปฏิบัติที่สืบสานปณิธานของบรรพบุรุษทหารเรือ ไปสู่การบรรลุภารกิจ และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งสะท้อนค่านิยมของกองทัพเรือ “Seamanship (ความเป็นชาวเรือ) Allegiance (ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี) Integrity and Gentleman (ผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ) Leadership (ความเป็นผู้นำ) หรือ “SAIL” ให้ปรากฏสู่สายตาประชาชน ภูมิภาค และประชาคมโลกเพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคมเป็น “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ” ตลอดไป ดังนี้
ด้านองค์บุคคล : “จิตใจที่เข้มแข็งและดีงาม ล้วนอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์” แสดงให้กำลังพลกองทัพเรือตระหนักว่า “เกียรติยศไม่ได้มีมาแต่กำเนิด แต่เกิดจากการกระทำ” จึงต้องปฏิบัติตนให้เป็นผู้สร้างผลงานและมีระเบียบวินัยด้วยตนเองตามภารกิจและคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตามแบบธรรมเนียมทหารเรืออย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การดำรงและรักษาซึ่งความจงรักภักดี “ปกป้องสถาบัน” การฝึกเพื่อเสริมสร้างระเบียบวินัยกำลังพลที่เข้มข้น และต่อเนื่อง
ที่สำคัญคือด้านการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ โดยในปีที่ผ่านมาโดยจัดการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ : จากผืนทะเลสู่ภูผา จากฝากฟ้าสู่มหานที เดอะซีรีย์” 5 ตอนจบ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งที่เป็นกำลังพลของกองทัพเรือ บุคคลภายนอก และชาวต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 9,629 คน นับเป็นกิจกรรมที่จารึกประวัติศาสตร์มีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันสูงที่สุดของประเทศ มีมาตรฐานการจัดแข่งขันในระดับสากล นอกจากนี้ มีประโยชน์อื่นจากการจัดการแข่งขัน กล่าวคือ เกิดการท่องเที่ยวกระตุ้นทางเศรษฐกิจในพื้นที่จัดการแข่งขัน พื้นที่ละกว่า 50 ล้านบาท รวมมากกว่า 250 ล้านบาท
ในปีนี้จึงดำรงการจัดการแข่งขัน “ไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ซีซัน 2 : มรรควิถีผู้กล้า ด้วยรักและศรัทธา ล่องธาราสู่มหาชลธี เดอะซีรีย์” 4 ตอนจบ โดยกำหนดจัดการแข่งขัน “อรุณเบิกฟ้า ปวงประชาและราชนาวี รวมใจภักดิ์” จำนวน 4 สนาม ประกอบด้วย จัดครั้งแรก ห้วงธันวาคม 2562 – มกราคม 2563 การแข่งขันภายใต้คำรหัส “ถิ่นน้ำสามสี อุบลราชนาวีเทิดจักรีวงศ์” บริเวณที่แม่น้ำโขง - ชี – มูล ไหลมาบรรจบกัน ณ จังหวัดอุบลราชธานี หรือ “ถิ่นน้ำสองสี เหล่าราชนาวีเทิดจักรีวงศ์” บริเวณที่แม่น้ำสงครามไหลมาบรรจบกัน ณ จังหวัดนครพนม ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์
ครั้งที่ 2 จัดห้วงมีนาคม – เมษายน 2563 “อาทิตย์อัสดงริมแผ่นดินทอง เหล่าประชาและนาวีแซ่ซ้องพระเกียรติคุณ” ณ ปากแม่น้ำกระบุรี (แม่น้ำปากจั่น) จังหวัดระนอง ครั้งที่ 3 ห้วงมิถุนายน – กรกฎาคม 2563 “พระมหากรุณาธิคุณดุจบิดามารดร เหล่านาวี ถวายพระพรชัย” ณ บริเวณหาดทรายรี จังหวัดชุมพร น่านน้ำแห่งปลาโลมาสีฟ้า หรือ จังหวัดกระบี่ แหล่งปลาพะยูน และครั้งที่ 4 ห้วงสิงหาคม – กันยายน 2563 “ทหารเรือไทยเทิดไท้องค์มหาราชามหาราชินีชั่วนิรันดร์” เป็นการปิดเดอะซีรีส์อย่างยิ่งใหญ่สมบูรณ์ ณ หาดเตยงาม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นอกจากนั้นได้มุ่งขยายขีดความสามารถของกำลังพลโดย 1.กำหนดขีดสมรรถนะหลักของกำลังพลในหน่วยกำลังรบหลัก และโครงการนำร่อง พร้อมทั้งขยายผลไปสู่หน่วยกำลังรบอื่น ๆ 2.การพัฒนาขีดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของ นักเรียนนายเรือ (นนร.) นักเรียนพยาบาลศาสตร์ (นพร.) และนักเรียนจ่า (นรจ.) โดยต้องผ่านเกณฑ์ทดสอบภาษาอังกฤษตามที่กำหนด รวมทั้งพัฒนางานสวัสดิการกีฬา ของหน่วยพื้นที่สัตหีบ โดยการจัดทำลู่จักรยาน ลู่วิ่ง สนามพารามอเตอร์ และสนามยิงปืนภายในหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ อันเป็นส่วนช่วยให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม สร้างจิตใจที่เข้มแข็งและดีงาม ไปพร้อมกับกองทัพเรือ
ด้านองค์วัตถุ : “กำลังรบต้องมีขีดความสามารถสมบูรณ์ในตัวเอง Expeditionary Force” การจัดซื้อและจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ต้องดำเนินการเช่นปีที่ผ่านมา ต้องมีความโปร่งใส เป็นที่พึงพอใจของประชาชน พร้อมถูกตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องไม่ทำให้น้อง ๆ หรือลูกหลานต้องไปตายในภายหน้า และต้องก้าวตาม หรือล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี โดยเน้นการพัฒนาตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ระยะ 20 ปี ที่กำหนดไว้ สอดคล้องกับการพัฒนากำลังพลและความพร้อมรบในระดับแนวหน้าในภูมิภาค เพื่อให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะรองรับภัยคุกคามในทุกมิติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่ง
ด้านองค์ยุทธวิธี : “สปิริต นักรบชาวเรือ” ในห้วงปีที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้ยกระดับการฝึกให้เหมือนการรบในสถานการณ์ที่สมจริงอย่างรอบด้าน ภายใต้แนวความคิด“รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น” มีการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น แบบ C802A โดยผลการยิงที่ระยะ 100 กิโลเมตร ถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ นับเป็นกองทัพเรือแรกที่ยิงอาวุธปล่อยด้วยระยะยิงไกลที่สุดในภูมิภาค รวมทั้งได้เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการฝึกผสมทางทะเลขนาดใหญ่จำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ เป็นเจ้าภาพร่วมกับจีน ในการจัดการฝึกผสม Southeast Asia – China Maritime Exercise และเป็นเจ้าภาพร่วมกับสหรัฐฯ ในการจัดการฝึกผสม ASEAN – U.S. Maritime Exercise เป็นการแสดงถึงการมีบทบาทนำในภูมิภาคอย่างแท้จริง
ในปีนี้ นอกจากดำรงปรัชญาการฝึกดังกล่าวแล้ว กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญกับจัดตั้งระบบสังคมนาวีปัญญาประดิษฐ์ (Navy Artificial Intelligence : Navy AI) และพัฒนาระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนงานธุรการของกองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับยุคสมัยของการรบและการทำงานที่ต้องอาศัยเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI)
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำสิ่งสำคัญในการสร้าง “สปิริต นักรบชาวเรือ” โดยให้กำลังพลคำนึงถึง “อุดมการณ์ชาติ” การปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือต้องไม่ล้มเหลวอันเนื่องมาจากไม่มี “จิตวิญญาณ” การเป็น “นักรบชาวเรือ” ของกำลังพลทั้งชายและหญิง ทั้งยามสงบและยามสงครามหรือสถานการณ์วิกฤติ และ “กองทัพเรือ ต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจ เชื่อมใจ และมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีภัยอันตราย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ”
ด้านการบริหารจัดการ : “พัฒนาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างโอกาสการพัฒนาแก่ กองทัพเรือมากขึ้น” ปีที่ผ่านมา กองทัพเรือได้รับรางวัล “เลิศรัฐ” ประจำปี 2562 สาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (หมวด 1 การนำองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม) โดยกองทัพเรือได้รับรางวัลเป็นอันดับที่หนึ่ง จากหน่วยงานราชการทั้งประเทศ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของกองทัพเรือ และสถานะของกองทัพเรือได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นในปีนี้ จึงให้ความสำคัญกับการปรับอัตราและโครงสร้างหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและการบริหารจัดการของกองทัพเรือไปสู่องค์กรขีดสมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ให้สมกับการ “เป็นกองทัพเรือ ที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ” ตลอดไป
ท้ายที่สุดนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณประจำปี 2563 จึงได้กำหนดหัวข้อเฉพาะนโยบายสำคัญ เพื่อนำกองทัพเรือไปสู่ “ขั้นรุกคืบหน้า สถาปนาความมั่นคง” (Moving Forward to Ensure Sustainability : MFES) โดยอยู่บนหลักคิดพื้นฐานที่ว่า “ที่มีอยู่ต้องรักษาให้อยู่ แล้วพัฒนาต่อไป” ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารเรือเชื่อมั่นว่า การไหลเวียนทั้งองค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี กองทุน เทคโนโลยี และการบริหารจัดการ สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และโอกาสการพัฒนาอันกว้างไกลให้กับการเติบโตของกองทัพเรือ ต่อไป ดั่ง “แม่น้ำสายใหญ่ไม่ปฏิเสธให้สายธารเล็ก ๆ ไหลเข้าร่วม จึงจะมีน้ำมากได้” และขอแต่ให้กำลังพลของกองทัพเรือทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ใช้ความพยายามร่วมกัน คอยอำนวยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมกันหว่านเมล็ดพันธุ์ ร่วมกันรับความสำเร็จแห่งการพัฒนา เพื่อให้กำลังพลกองทัพเรือ ความสุข มีเกียรติ และศักดิ์ศรีมากขึ้น รวมถึงประเทศชาติมีความดีงามมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี