ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา หลายหมู่บ้านในช่วงนี้ ต่างออกหาตัวปูนาตามทุ่งนาในพื้นที่นาของหมู่บ้านเพื่อนำมาแปรรูปเป็นน้ำปู หรือน้ำปู๋ ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมขึ้นชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือ หรือชาวล้านนา ที่สามารถนำไปเป็นส่วนผสมของอาหารอื่นๆ ทั้งน้ำพริก แกงหน่อไม้ ตำแตงและตำหลากหลาย ซึ่งเป็นอาหารจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถรับประทานในครอบครัวและสร้างงาน สร้างอาชีพได้ ซึ่งรสชาติของน้ำปูดังกล่าวจะมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะชาวบ้านของชุมชน อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา จนเป็นอาหารพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของอำเภอและเป็นสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อของอำเภอแม่ใจ
นางจันทร์ติ๊บ ปันสุวรรณ อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ได้ทำน้ำปูมานานหลายปีแล้วสำหรับ การทำน้ำปู เมื่อได้ปูนามาแล้วก็จะนำอามาขังและแช่น้ำไว้สักหนึ่งคืนเพื่อให้สิ่งสกปรกดิน โคลนหลุดออกจากตัวปู จากนั้นก็จะนำปูมาล้างให้สะอาด เตรียมใบตระไคร้ ใบขมิ้น นำมาบดพร้อมกับปู เอาน้ำปูออกให้มากที่สุด แล้วนำน้ำปูที่คั้นได้เก็บไว้ประมาณ 1-2 คืน เพื่อดองให้เกิดกลิ่น และนำไปเคี่ยว
ส่วนการเคี่ยวต้องใช้ไฟแรงๆและค่อยๆ เอาฟืนออกให้ไฟอ่อนลง เมื่อเคี่ยวจนน้ำปูแห้งแล้วจะเติมเกลือเล็กน้อย น้ำปูแห้งจะจับกันเป็นก้อนสีดำ พักไว้ให้เย็นสามารถนำไปบรรจุภาชนะและออกขาย โดยจะจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท ซึ่งตัวปูเป็นๆจำนวน 100 กิโลกรัมจะสามารถเคี่ยวเป็นน้ำปูได้จำนวน 20 กิโลกรัม สำหรับการจำหน่ายนั้นจะมีคนมาสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง และสามารถขายได้เป็นอย่างดี สร้างรายได้ในช่วงนี้ได้อย่างงาม โดยเฉพาะช่วงนี้ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่อำเภอแม่ใจ จะทำการผลิตน้ำปูออกจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับการทำน้ำปูของชาวบ้าน ในอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา จะทำในช่วงหลังจากปลูกนาข้าว ระหว่างเดือนสิงหาคม - ตุลาคมของทุกปี ซึ่งในช่วงนี้ปูนาจะออกมากัดกินต้นข้าวและมีตัวโตเจริญวัย ชาวบ้านก็จะออกไปจับปูนามาทำน้ำปู เป็นวงกว้าง ซึ่งน้ำปูจะเป็นส่วนผสมใช้ปรุงรส อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ เช่น น้ำพริกน้ำปู แกงหน่อไม้ ยำหน่อไม้ ตำแตง ซ้ามะเขือ ตำเตา ตำส้มโอ ตำกระท้อน ซึ่งเป็นอาหารดั้งเดิมของคนเหนือ โดยมักจะทำน้ำปูในฤดูฝนหรือฤดูทำนาเพื่อไว้ใช้ในการปรุงอาหารได้ตลอดทุกฤดูกาล น้ำปู หรือ น้ำปู๋ เป็นอาหารที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในภาคเหนือ และเป็นการถนอมอาหารเพื่อเก็บไว้กินเป็นเวลาเเรมปี นอกจากที่ชาวบ้านจะทำไว้กินเองเเล้วยังนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี