4 ตุลาคม 2562 นายสมหวัง อัสราษี หนึ่งในแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ในอดีตเป็นถึง “ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” และยังเป็น “สปอนเซอร์” รายใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกด้วย เพราะเฮียหวังเป็นที่รู้จักในหมู่นักธุรกิจที่โด่งดังจากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า “มิตซูชิตา” เพราะเป็นผู้บุกเบิกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์คนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเริ่มต้นผลิตชายในเมืองไทย และเป็นผู้รับจ้างผลิตให้อีกหลายยี่ห้อดังๆอีกด้วย
ต่อมาเริ่มหันมาทำตลาดส่งออกแถบประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาม กัมพูชา เวียดนาม พม่าและในเอเชีย ซึ่งมิตซูชิต้าจะเน้นทำตลาดกลางลงล่าง เพราะเป็นตลาดใหญ่ที่มีช่องว่างและเป็นคนละตลาดกับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ที่เน้นจับตลาดกลางถึงบน
จากนั้นได้ไปทำธุรกิจอื่นร่วมอย่างธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง “หมีคอมมานโด” และชาเขียว “วายเจ” อีกทั้งยังสร้างแบรนด์เครื่องดื่มยี่ห้อ “ทักษิณสู้” บุกตลาดกัมพูชาอีกด้วย ทำให้เฮียหวังเข้ามาเป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ ไม่ยากเพราะมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจเอสเอ็มอี และเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยประกาศว่า “ตนเป็นนักธุรกิจเสื้อแดง” เมื่อครั้งชุมนุมคนเสื้อแดงอีกด้วย
ล่าสุด “เฮียหวัง” ต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อ “เสียรู้เพื่อนรัก” ใช้ชื่อตัวเองเปิดบัญชีรองรับเงินแทน “สามเกลอ” จนถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีกว่า 572 ล้านบาท เมื่อไม่มีจ่ายเลยต้องถูก “ฟ้องล้มละลาย” พร้อมกับโดนอายัดทรัพย์และอายัดบัญชีทั้งหมด กลายเป็นคนเหลือแต่ตัว นับว่าเป็นบทเรียนราคาแพงของเฮียหวังที่ต้องมา “ฉิบหาย” เพราะคำว่าเพื่อนแท้จริง
ซึ่งเฮียหวังคนนี้มีบทบาทสำคัญกับการเมืองยังไงนั้น ทีมข่าวจะพาไปเปิดประวัติให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน นายสมหวัง อัสราศี เกิดวันที่ 29 มกราคม 2502 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก และจบปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ สื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
ขณะที่เรื่องของการทำงาน “เฮียหวัง” เป็นถึงระดับ “ประธานบริษัท” สแกนเนอร์ อิเลคทริค อินเตอร์เนชั่นแนว จำกัด อีกทั้งยังเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุงสยาม เครื่องดื่มจำกัด และเป็นเจ้าของบริษัทพาวโซนิค (Pow Sonic) อีกด้วย
นอกจากนี้ “เฮียหวัง” ได้รับความไว้วางใจให้เป็น “ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” (สมัยนายกิตรัตน์ ณ ระนอง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2554)
ต่อมาวันที่ 24 มกราคม 2555 ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในปีเดียวกันก็ได้เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ)
จากประวัติคร่าวๆนี้ทำให้เรารู้ได้ว่าต่อให้เรียนสูงหรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีแค่ไหน ก็ฉิบหายได้แค่เพราะเรื่อง “คบเพื่อน” เพราะวันที่หมดตัวคำว่าเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนร้ายได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี