14 ตุลาคม 2562 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหะนะ มหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนแห่งสระบุรี หรือข้าวต้มหาง เนื่องในวันออกพรรษา ณ วัดพระพุทธฉาย อ.เมืองสระบุรี มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมพิธีนับหมื่นคน เนื่องจากวันนี้ยังอยู่ในช่วงของวันหยุด
สำหรับงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหะนะมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยน วัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชารอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ที่ประทับอยู่บนยอดเขา มีขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน ขบวนรำถวายพุทธบูชา ประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงพุทธประวัติและเหตุการณ์จำลองพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยปีนี้จะมีกลุ่มวัฒนธรรมชมรมต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มสตรีที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จากทุกอำเภอรวมกว่า 3,000 คน มากกว่าปีที่แล้วที่มีจำนวน 1,400 คน มาร่วมกิจกรรมรำวงวงใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไฮไลท์ของงาน โดยใช้เพลงรำวงสระบุรี เพลงประจำจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งโดยนายสมจิตร คชฤทธิ์ และเพลงนี้ถูกนำไปร้องในโอกาสต่างจนเป็นที่นิยมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีการรำวง วงขนาดใหญ่คนจำนวนมากที่สุดในประเทศ
งานประเพณีตักบาตรเทโวโรหะนะมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยน วัดพระพุทธฉาย นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีวันสำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีปฏิบัติเนื่องในวันออกพรรษาของชาวจังหวัดสระบุรีให้สืบต่อไป ส่งเสริมการท่องเที่ยววัดพระพุทธฉาย ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดสระบุรีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่วัดพระพุทธฉายมีสถานที่และโบราณสถานที่สำคัญ เช่น รอยพระพุทธฉายหรือรูปเงาพระพุทธเจ้า ที่ประทับอยู่เงื้อมหน้าผา รอยพระพุทธบาทเบื้องขวาที่อยู่บนยอดเขา ซึ่งด้านบนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสักการบูชาจะสามารถมองทิวทัศน์เมืองสระบุรีได้ 360 องศา และที่วัดพระพุทธฉายแห่งนี้ยังมีพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาสักการบูชารอยพระพุทธฉายและปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นการส่วนพระองค์ ถึง 12 พระองค์ ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มาจนถึง รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ ที่ได้ลงพระปรมาภิไธยและพระนามไว้ บริเวณหน้าผา
งานประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน ยังเป็นการปลูกฝังให้แด็กและเยาวชนได้รู้ถึงความรัก ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่าง เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ ก่อนจะเสด็จมาแสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา ในวันงานจะมีการจำลองขบวนเสด็จขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขบวนสวรรค์และขบวนนรก ด้วย
สำหรับข้าวต้มลูกโยนที่วัดพระพุทธฉาย กล่าวกันว่าเป็นมากกว่าขนมพิธีกรรมใส่บาตร แต่นี่คือเป็น “มหัศจรรย์ของดีสระบุรี” ทุกปีที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือกลับไปบ้านเป็นของฝากหรือนำไปรับประทานด้วย และได้รับคำชื่นชมว่าข้าวต้มลูกโยนหรือข้าวต้มหางที่วัดพระพุทธฉายมีความอร่อย และปีนี้ก็มีการเพิ่มสีสันสีม่วงอัญชันและกลิ่นใบเตย รวมไปถึงเพิ่มไส้ถั่วและเผือก ด้วยเช่นกัน สนนราคาไม่แพงขายเป็นพวงราคาพวงละ 30-50 บาท ซึ่งทางวัดพระพุทธฉายได้วางแผนและจัดเตรียมกำลังคนไว้จัดทำข้าวต้มลูกโยนไว้ให้เพียงพอ
‘ข้าวต้มลูกโยน’ ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนได้สืบสานทำมานานแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีนักเรียนเยาวชนได้สนใจมาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติหัดทำข้าวต้มลูกโยนกันเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันได้มีการทำข้าวต้มหางแบบประยุกต์เพื่อให้มีกลิ่นหอมและมีรสชาติอร่อย เช่นไส้กล้วย ไส้กล้วยตาก ไส้เผือก ไส้ถั่ว และมีส่วนผสมของถั่วเหลืองหรือถั่วดำในข้าวเหนียว เป็นต้น และตอนนี้ได้ประยุกต์ทำข้าวเหนียวที่มีสีสันกลิ่นหอมชวนชิม เช่น สีม่วงกลิ่นอัญชัน สีเขียวกลิ่นใบเตย และเมื่อนึ่งไส้ภายในสุกแล้วก็นำมาห่อขึ้นรูปคล้ายข้าวต้มมัด โดยมีการนำใบไม้รูปทรงยาวเรียว มาพันเป็นกรวย ม้วนพันไปเรื่อยจนห่อหุ้มข้าวเหนียวทั้งชิ้นโดยทิ้งชายเป็นหางไว้ จากนั้นจะมัดด้วยไม้ตอกก่อนนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 10 นาที
ข้าวต้มลูกโยนสามารถใช้ใบไม้ได้หลายชนิด เช่นใบตอง ใบกระพ้อ ใบมะพร้าว และใบเตย เป็นต้น เมื่อขบวนแห่ผ่านไปก็จะเป็นเสลี่ยงพระพุทธรูปและบาตรขนาดใหญ่ พุทธศาสนิกชนที่เบียดเสียดนับหมื่นคนก็จะร่วมกันโยนข้าวต้มหางหรือข้าวต้มลูกโยนเพื่อให้ตกลงในบาตร และที่เหลือจะนำมาใส่บาตรพระสงฆ์ที่เดินเรียงรายสองฝากฝั่งที่มีประชาชนมาคอยใส่บาตร
ปีนี้มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน มีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนทั้งในจังหวัดสะบุรีและจังหวัดต่าง ๆ หลั่งไหลมาร่วมงานจำนวนมาก เนื่องจากพิธีใส่บาตรข้าวต้มลูกโยนที่วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี จะมีการประกอบพิธีเพียงวันเดียวเท่านั้น อันจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรีไปในคราวเดียวกันด้วย ส่วนข้าวต้มลูกโยนนั้นได้มีการเน้นการปรุงแต่งให้มีรสชาติอร่อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี