ตีแผ่ชีวิตงานบริการ! สารพันปัญหา “ถูกเอาเปรียบ-ไม่กล้าแจ้งตำรวจ –ลดศักดิ์ศรี” เครือข่ายฯผนึกกำลังLGBT ร้องสภาเลิก พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา กลุ่มเครือข่ายพนักงานบริการ และมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ประกอบด้วย พนักงานบริการ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ(LGBT) นักกิจกรรมอิสระด้านสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการ(กมธ.) เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ยกเลิกพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ปราบปรามการค้าประเวณี
โดย น.ส.วรกร โชติกิจวานิชกุล ตัวแทนเครือข่ายพนักงานบริการ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาที่พนักงานบริการประสบอยู่ในปัจจุบันมีมากมาย ประกอบด้วย
1.การถูกเอาเปรียบจากเงื่อนไขทำงานในสถานบริการ ซึ่งพนักงานบริการที่ทำงานในร้านที่ถูกกฎหมาย แต่ถูกหักเงินที่ผิดกฎหมายแรงงาน ถูกบังคับดื่ม ไม่มีอิสระที่จะเลือก หรือปฏิเสธลูกค้า รวมถึงถูกหักรายได้มากกว่า 50% และไม่มีสวัสดิการใด
2.ไม่มีอำนาจต่อรองกับเจ้าของร้าน
3.การเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม เช่น ไม่กล้าไปแจ้งความหากถูกกระทำรุนแรง เพราะเกรงจะถูกจับจากการขายบริการทางเพศ และเมื่อพบปัญหาในร้าน เช่นมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาทำงานไม่สามารถร้องเรียนรัฐได้ เพราะเกรงจะถูกจับทั้งร้าน
4.ถูกบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกเก็บเงินเพื่อให้สามารถทำงานต่อได้
5.เข้าไม่ถึงการคุ้มครองและสิทธิแรงงานในฐานะลูกจ้าง หรือความปลอดภัยในการทำงาน อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงจากการทำงานที่ไม่มีการคุ้มครอง
6.ถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จากการล่อซื้อ และถูกตีตราว่าเป็นอาชญากร
7. เข้าไม่ถึงอาชีพใหม่และสถาบันการเงิน รายได้ไม่สามารถแสดงเพื่อทำธุรกรรมการเงินได้
เครือข่ายฯจึงขอเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหา คือ
1.ยกเลิกพ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี ปี 2539 ตามที่ภาครัฐจัดทบทวนที่ผ่านมา
2.รัฐหยุดการจับกุม ล่อซื้อกับพนักงานบริการในความผิดจาการค้าประเวณี ที่รัฐได้รับรองในระดับนานาชาติ
3.รัฐจัดตั้งคณะทำงานที่มีทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน ตัวแทนพนักงานบริการ อย่างน้อย 1 ใน 3 ตัวแทนผู้ประกอบการ นักวิชาการด้านสังคม นักกฎหมาย นักศึกษา ทบทวนยกเลิกการเอาผิดกับคนทำงานบริการทางเพศต่อไปและพิจารณาข้ออ่อนของกฎหมายที่มีบังคับใช้อยู่แล้ว เช่น กฎหมายบริการ
4.ให้รัฐจัดตั้งคณะทำงานติดตาม บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ตามข้อเสนอCEDAW ปี 2017 กับสถานบริการ
5.จัดตั้งคณะทำงานติดตาม การจัดสภาพการทำงาน เงื่อนไขการทำงาน ให้พนักงานบริการสามารถเข้าถึงสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรง
6.รัฐสนับสนุนจัดตั้งกองทุนให้พนักงานบริการสามารถเข้าถึงการศึกษา และพัฒนาอาชีพที่ทันสมัย
ด้านนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานกรรมาธิการเด็ก เยาวชนฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ พร้อมระบุว่า พวกเราเห็นถึงความสำคัญทุกภาคส่วน ความเสมอภาคที่เกิดขึ้นในสังคม แต่กฎหมายบางอย่างอาจจะครอบคลุมไม่ทั่วถึง โดยเราจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาเรื่องนี้ ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความเหลื่อมล้ำ การทำงานของหน่วยงาน หรือกฎหมายที่ล้าหลัง ควรจะเปลี่ยนแปลงได้แล้วหรือไม่ เราจะดูแลเรื่องนี้ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียม ทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี