18 ตุลาคม 2562 นายธานี สถาวร อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ชาวสวนที่สร้างรายได้เสริม เลี้ยงหนูพุก จำหน่าย มีทั้งขายเพื่อไปทำหนุย่างและขายลูกหนู รวมถึงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์  มีชาวบ้านในพื้นที่นิยมนำหนูนา  มาทำเป็นอาหารจานเด็ด เมนู หนูนาย่าง ผัดเผ็ด  หลังจากในท้องตลาดมีความต้องการหนูนาจำนวนมาก และหาได้ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร และขาดตลาดในบางช่วงมีราคาที่สูงขึ้นทำให้มีชาวบ้านหันมาเลี้ยงหนูนาขายสร้างรายได้อย่างงาม

นายธานี เปิดเผยว่า มีอาชีพหลักประกอบอาชีพทำสวนทำไร่ ปลูกฝรั่ง และได้เริ่มเลี้ยงหนูพุก (หนูนา) จำหน่ายเป็นรายได้เสริม มาประมาณ1ปีกว่า สร้างรายได้ต่อเดือน นับหมื่นบาท ซึ่งการเลี้ยงหนูนาจำหน่ายนั้นเป็นอาชีพแปลกใหม่สำหรับชาวบ้าน ซึ่งปกติจะทำการหาหนูในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในนา และปัจจุบันมีผู้นิยมบริโภคจำนวนมากทำให้ราคาสูงขึ้นและมีลูกค้าตลอด

โดยที่ฟาร์มตนเองนั้นเลี้ยงหนูนาขายเป็นตัวเพื่อนำไปทำอาหาร จะจับตอนหนูอายุประมาณ 4 เดือน ขายในราคา กิโลกรัมละ 120 บาท คือขายหนูตัวเป็นๆ ส่วนมากหนูจะมีน้ำหนักตัวละประมาณ 1กิโลกรัม   ชาวบ้านจะนำไปประกอบอาหารเอง ชาวบ้านในพื้นที่นิยมนำหนูนามาทำเป็นอาหารจานเด็ด เมนู หนูนาย่าง ผัดเผ็ด   ส่วนที่จำหน่ายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จะจับขายในช่วง อายุ 2-3 เดือน ขายในราคาตัวละ 200 บาท ในตอนนี้ เลี้ยงไว้ทั้งหมด ประมาณ30 กว่าแม่ และมีโครงการจะขยายเพิ่ม ต่อไป

“หนูพุก” หรือ หนูนา เป็นหนูที่มีขนาดใหญ่ตามธรรมชาติจะพบได้ในนาข้าว จัดเป็นศัตรูพืชที่สำคัญในนาข้าว ซึ่งปัจจุบันในธรรมชาติ เริ่มมีจำนวนน้อยลง แต่ในทางกลับกัน การบริโภคเนื้อหนูพุกเป็นอาหาร กลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื้อของหนุพุกจะไม่เป็นสาป จึงมีกลุ่มเกษตรกร นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ มาเลี้ยง และนำเนื้อมาจำหน่าย  ในตอนแรกเริ่มจากซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และเรียนรู้วิธีการเลี้ยงทางอินเตอร์เน็ท จากนั้น สั่งซื้อ แม่พันธุ์ 3 ตัว พ่อ 1 ตัว โดยนำมาเลี้ยงในบ่อปูนซีเมนต์ทำฝาครอบปิดป้องกันการกระโดดและเจาะรูระบายอากาศ อาหารที่ใช้ มี ข้าวเปลือก หัวอาหารหมู