จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ฝนตกไม่ทั่วถึง บางพื้นที่ฝนตกมากน้ำท่วม บางพื้นที่ฝนไม่ตกแห้งแล้ง เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวได้รับผลกระทบ เดือดร้อนถ้วนหน้า จึงมีเกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวจำนวนไม่น้อยเลิกทำนา แม้จะเป็นอาชีพที่แสนรัก อาชีพมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมานานก็ตาม โดยหันไปทำอาชีพอย่างอื่นที่ว่าดีกว่าทำนาแทนสร้างรายได้เป็นอย่างดี
อย่างเช่น นายอำพร บุตรชา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 6 ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ชาวนาอำนาจเจริญ ทำนามาหลายชั่วอายุคน ไม่เคยถือเงินแสน บางปีฝนแล้ง ทำนาขาดทุน ต้องเป็นหนี้สิน ไม่สิ้นสุด บางปีฝนตกดี ก็มีเพียงข้าวกินปีชนปี จำเป็นต้องมองหาอาชีพอื่นแทน การทำนา เพราะความเป็นอยู่อาจจะดีขึ้นกว่านี้
นายอำพร บุตรชา ผู้หันหลังให้กับอาชีพทำนา เล่าว่า หลังจากประสบปัญหาทำนาขาดทุน จึงเริ่มมองหาอาชีพใหม่และสำรวจตลาดสดและตลาดตอนกลางวันในเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ พบว่าลูกอ๊อดที่นำมาทำหมกฮวกเริ่มขาดตลาด จึงคิดจะเพาะลูกอ๊อดป้อนตลาด ประกอบกับญาติแนะนำให้เพาะลูกอ๊อดขายก็ลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน กระทั่งปัจจุบันเพาะลูกอ๊อดขายมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ประสบความสำเร็จเกินคาด ความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ มีบ้านและรถยนต์เป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ
นายอำพร เล่าถึงวิธีการเพาะลูกอ๊อดว่า เริ่มจากปรับพื้นที่นาจำนวน 5 ไร่ทำเป็นบ่อคอนกรีต จำนวน 20 บ่อ บ่อดินสำหรับเลี้ยงลูกอ๊อดจำนวน 40 บ่อ แต่ละบ่อมีความกว้าง 20 เมตร ยาว 8 เมตร ลงทุนซื้อกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จ.นครราชสีมา จำนวน 300 ตัว เป็นพันธุ์นางนวล จากนั้นมีการขยายพันธุ์เองได้ขนาดพอขายในแต่ละบ่อที่เพาะเลี้ยงจะได้ลูกอ๊อดประมาณ 80 กิโลกรัมต่อ 1 บ่อ ถ้ารวมทั้งหมดก็จะได้ ประมาณ 10,000 กิโลกรัมต่อรุ่น ลูกค้าที่มาซื้อทั้งในจังหวัดและใกล้เคียง เช่น อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร ศรีสะเกษ และกาฬสินธุ์
นายอำพร บุตรชา กล่าวว่า ที่นี่จะเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดนอกฤดูกาล จึงเป็นการได้เปรียบ เป็นกลยุทธ์การค้าขายอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาปรับใช้จนประสบความสำเร็จ ประกอบกับชาวอีสานนิยมนำลูกอ๊อดมาประกอบอาหารกันมาก โดยเฉพาะตามตลาดสดหรือตลาดโต้รุ่งหรือร้านอาหารต่างๆ ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ จะมีลูกอ๊อดเป็นเมนูจานเด็ด เรียกว่า หมกฮวก มีขายทุกวัน ดังนั้น ลูกอ๊อดหรือฮวก จึงมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนตลาดรองรับไม่อั้น และในแต่ละรุ่นจะเลี้ยง 21-25 วันเท่านั้น
สำหรับอาหารจะให้อาหารเม็ด 2 เวลาเช้า –เย็น ต่อจากนั้นลูกอ๊อดจะหากินดินโคลนหรือแมลงต่างๆ เป็นอาหารเอง ก็นับว่าเลี้ยงง่ายขายคล่อง ปัญหาอุปสรรรคในการเลี้ยงก็มีไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกงูต่างๆที่ชอบหลบเข้ามากินลูกอ๊อดตอนกลางคืน ก็แก้ไขโดยการเอาตาข่ายพลาสติดสีเขียวล้อมขอบบ่อไว้
นายอำพร บุตรชา กล่าวทิ้งท้ายว่า นับว่าการเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดคือลู่ทางแจ่มใส ตลาดมีความต้องการตลอดเวลา ประกอบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงยังมีน้อย ตกลงราคาซื้อขายกันเอง ที่สำคัญไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่จะได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปริมาณลูกอ๊อดที่ออกสู่ตลาด เช่น ฤดูฝนตกชุก มีลูกอ๊อดตามธรรมชาติมาก ราคาก็ถูกลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี