วันที่ 31 ตุลาคม 2562 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานเปิดงานประเพณีปิดทองรูปเหมือนองค์หลวงปู่ป่าน อคฺคปญฺโญ หรือ "พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ" อดีตเจ้าอาวาสวัดมงคลโคธาวาส หรือวัดบางเหี้ย โดยมีการอัญเชิญรูปเหมือนองค์หลวงปู่ปาน จากวิหารวัดไปตามถนน ก่อนลงเรือแห่ออกสู่ปากอ่าว ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเวียน 3 รอบตามประเพณีท้องถิ่นสืบทอดกันมาเป็นปีที่ 109 นับตั้งแต่หลวงปู่ปาน มรณภาพเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2453
ตลอดทางของการแห่เรือจะมีการจุดประทัดถวาย ท่ามกลางขบวนเรือประมงและเรือประเภทอื่นๆ นับร้อยลำ เมื่อเวียนครบ 3 รอบแล้วเรือทุกลำที่เข้าร่วมพิธีจะเร่งเครื่องเข้าประกบกับเรือองค์หลวงปู่ปาน เพื่อรับธงเป็นสิริมงคลและปกป้องคุ้มครองขณะออกทำประมง
สำหรับ หลวงปู่ปาน อคฺคปญฺโญ หรือ พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ เป็นพระสายปฏิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาทั่วประเทศ เกิดที่คลองนางโหง (คลองนางหงษ์) ตำบลบางเหี้ย (ตำบลคลองด่านในปัจจุบัน) อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2368 บิดาเชื้อชาติจีนชื่อ "ปลื้ม" มารดาเชื้อชาติไทยชื่อ "นางตาล" อาชีพทำป่าจาก มีพี่น้องร่วมมารดา 5 คน คือ นายเทพย์, นายทัต, นายปาน (หลวงปู่ปาน), นายจันทร์ และนางแจ่ม
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึ้นใช้ลูกหลานของหลวงปู่ปาน ได้ใช้ชื่อของบรรพบุรุษมาตั้งเป็นนามสกุลว่า "หนูเทพย์" สมัยเป็นเด็กหลวงปู่ปาน ใช้ชีวิตตามแบบชาวชนบทธรรมดา และได้มาบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานครฯ จวบจนเมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านก็ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดอรุณราชวราราม (อารามหลวง) โดยมี "ท่านเจ้าคุณศรีศากยมุนี" เป็นพระอุปัฌาย์
หลวงปู่ปาน ศึกษาทั้งด้านวิปัสสนากรรมฐาน รวมไปถึงไสยศาสตร์ต่างๆ โดยได้รับการถ่ายทอดจากคณาจารย์หลายองค์จนเชี่ยวชาญ ในเวลาต่อมาท่านจึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่วัดบางเหี้ยนอก (วัดมงคลโคธาวาส) โดยมีพระซึ่งเป็นสหายสนิทตามมาด้วยองค์หนึ่งชื่อ หลวงพ่อเรือน หลังออกพรรษาท่านและหลวงพ่อเรือนก็เริ่มออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นประจำ ในพรรษาต่อๆ มาจึงเริ่มมีพระผู้ติดตามมากขึ้นจนกระทั่งออกธุดงค์ครั้งละเป็นร้อยรูป
หลวงปู่ปานและหลวงพ่อเรือน ได้ดั้นด้นไปจนถึงวัดอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมและได้ฝากตัวเป็นสานุศิษย์ของ หลวงพ่อแตง เจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา โดยเน้นศึกษาด้านวิปัสนาธุระและไสยเวทมนตร์ต่างๆ จนเมื่อมีความเชี่ยวชาญแล้วจึงได้อำลาพระอาจารย์กลับมาพำนักอยู่ที่วัดบ้านเกิดพร้อมด้วยพระอาจารย์เรือน ณ วัดบางเหี้ย (ปัจจุบันคือวัดมงคลโคธาวาส)
หลวงปู่ปาน เป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติธรรมวินัยเคร่งครัดโดยปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นประจำทุกวัน เช่น การนำพระสงฆ์ออกบิณฑบาตทุกๆ เช้า นอกจากวันที่เจ็บป่วยจนไปไม่ไหวแล้วท่านก็ปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน หรือการนำพระสงฆ์สวดมนต์เช้าเย็นที่หอสวดมนต์เป็นประจำทุกวันโดยสวดมนต์เป็นคัมภีร์หรือผูกเป็นเล่มเป็นวันๆ ไปกระทั่งสวดปาฏิโมกข์ ด้วยเหตุนี้ในสมัยของท่านนั้นบรรดาพระลูกวัดของท่านจึงสวดมนต์เก่งมาก
ส่วน ไรูปหล่อหลวงปู่ปาน" นั้น ด้วยคุณความดีและคุณธรรมอันสูงส่งของหลวงปปู่ปาน ที่ได้ประกอบขึ้นไว้แต่เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ราษฎรทั้งในตำบลใกล้เคียงไปจนกระทั่งต่างอำเภอและต่างจังหวัดพากันเคารพนับถือและรำลึกถึงท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย
ก่อนที่หลวงปู่ปาน จะมรณภาพนั้นประชาชนที่มีความเคารพบูชาท่านได้พร้อมใจกันหล่อรูปเหมือนของท่านขึ้นมาองค์หนึ่งขนาดเท่าตัวจริง เพื่อไว้เป็นที่เคารพบูชากราบไหว้รูปหล่อแทนตัวท่าน เพราะท่านไม่ค่อยได้อยู่วัดเนื่องจากมักจะเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆ เป็นประจำ แต่เมื่อหล่อรูปเหมือนท่านขึ้นแล้วท่านก็ไม่ค่อยจะเข้าวัด มักจะปลีกตัวไปจำวัดที่พระปฐมเป็นประจำ
การที่หลวงปู่ปาน ไม่อยากเข้าวัดนั้นอาจเป็นเพราะท่านรู้ล่วงหน้าว่าถึงคราวจะหมดอายุขัยแล้วจึงต้องการความสงบในการพิจารณาธรรมก็เป็นได้ แต่ท่านก็ไม่ได้บอกกับใครๆ เมื่อญาติโยมอ้อนวอนมากๆ เข้า ท่านก็บ่ายเบี่ยงไปว่า "เข้าไปไม่ได้ อ้ายดำมันอยู่ ขืนเข้าไปอ้ายดำมันจะเอาตาย" ซึ่งคำว่า "อ้ายดำ" หมายถึงรูปหล่อของท่านนั่นเอง
ปัจจุบันนี้รูปหล่อของหลวงปู่ปาน ก็ยังประดิษฐานอยู่ที่วัดมงคลโคธาวาส ที่กุฏิของท่าน ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง ซึ่งปรากฏความศักดิ์สิทธิ์มากมาย น้ำมนต์ที่หน้ารูปหล่อของท่านก็มีคนนำไปดื่ม ทองคำเปลวที่รูปหล่อก็มีคนนำไปปิดที่หน้าผากเพื่อรักษาโรค เป็นต้น
ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวไทย และข่าวสารเมืองปราการ v2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี