ถาม : หลวงพ่อคะ วันนี้หนูไปฟังผลชิ้นเนื้อมา หมอบอกหนูเป็นมะเร็ง หนูอยากจะขอสติจากหลวงพ่อค่ะ หนูยอมรับว่ากลัวมากค่ะ
พระอาจารย์สุชาติ : อ๋อ หมอเขาลืมบอกว่าร่างกายของหนูไม่ใช่หนู นี่คือสิ่งที่หมอไม่รู้ ต้องไปหาหมอพระ ไปหาพระพุทธเจ้า ไปหาพระอริยสงฆ์สาวก ท่านก็จะบอกว่าร่างกายไม่ใช่เรา ร่างกายเป็นคนรับใช้เรา เราเป็นเจ้านายของร่างกาย เราเป็นผู้สั่งให้ร่างกายทำอะไรต่างๆ ฉะนั้น เวลาร่างกายเป็นอะไร มันไม่ได้มาเป็นที่เรา แต่เราไม่รู้เราไปหลงคิดว่าเราเป็นร่างกาย พอร่างกายเป็นอะไรขึ้นมาเราก็เลยคิดว่าเราจะเป็นไปกับร่างกาย ความจริงเราเป็นใจผู้รู้ผู้คิด ผู้ที่ไม่มีรูปร่างหน้าตา ไม่มีร่างกาย เราเลยไปเช่าร่างกายมาจากพ่อแม่ของเรา ไปขอร่างกายจากพ่อแม่เพื่อเราจะได้ใช้ร่างกายพาเราไปเที่ยว พาไปหาความสุขกัน
แต่ร่างกายของเรามันไม่ช้าก็เร็วก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย อันนี้เราไม่มาศึกษากัน ไม่มาทำความเข้าใจก่อน เหมือนกับไปซื้อของแล้วไม่เปิดดูหนังสือกำกับมาว่าสินค้าชนิดนี้มีประโยชน์ยังไงมีโทษยังไง เราก็เลยไปคิดว่ามันมีประโยชน์อย่างเดียว แต่ความจริงสินค้าที่เราซื้อมานี้มันมีทั้งคุณมีทั้งโทษ คุณก็คือเวลาที่มันแข็งแรงมันก็พาเราไปไหนมาไหนทำอะไรได้ แต่เดี๋ยวต่อไปมันจะต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย อันนี้เราไม่รู้กัน เราไปเหมาว่าเป็นเราเป็นของเราเป็นตัวเรา แล้วเราก็จะอยากให้มันดีตลอดเวลา ไม่ต้องการให้มันเป็นอะไรไป พอมันเป็นอะไรมันก็เลยทำให้เราไม่สบายใจ
แต่ถ้าเรามาศึกษามาทำความเข้าใจให้รู้ว่า เราไม่ได้เป็นอะไรไปกับร่างกาย มันเป็นเพียงคนรับใช้เรา เป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่เราซื้อมา เราเช่ามาจากพ่อจากแม่ หรือเช่ามาจากดินน้ำลมไฟก็ว่าไป เดี๋ยวไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องกลับไปคืนเจ้าของ คือดินน้ำลมไฟไป เราต้องรู้อย่างนี้แล้วเราจะได้สบายใจ แล้วเราจะได้ปล่อยใจได้
ถ้ารู้แล้วยังไม่ยอมเชื่อ ยังไม่ยอมปล่อยเราก็ต้องมานั่งสมาธิทำใจให้สงบ เปลี่ยนความคิดใหม่เพราะขณะนี้เรายังจะคิดว่ามันเป็นเราเป็นตัวเราอยู่ แต่ถ้าเรามาหยุดความคิดนี้ได้ พุทโธพุทโธ เดี๋ยวความคิดว่าเป็นตัวเราของเรามันก็จะหายไป แล้วทีนี้เราก็จะปล่อยวางร่างกายได้ตามความเป็นจริงของมัน นี้คือสิ่งที่เราต้องมาฝึกกัน ฝึกกันก่อนที่จะเจอเหตุการณ์นี้ เพราะเวลาเจอเหตุการณ์นี้จะเหมือนเข้าห้องสอบโดยที่ไม่เตรียมทำข้อสอบไว้ก่อน มันก็จะสอบตกนะ ใจมันก็จะตกจากข้างบนลงมาสู่เท้า ต่อไปนี้ตอนนี้คงจะไม่มีกะจิตกะใจอยากทำอะไรแล้ว วิตกกังวลกับเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยของร่างกาย
แต่ถ้าเราได้ฝึกไว้มาตั้งแต่ก่อน พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เราก็จะรู้วิธีทำใจว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องเสียร่างกายนี้แล้วนะ ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือเป็นคนรับใช้เรา เขารับใช้เราได้เท่าไหร่ก็ให้เขารับใช้ไปพอหมดเวลาก็ปล่อยเขาไป เราก็จะไม่วุ่นวายใจ เราก็จะไม่เดือดร้อนใจกับความเป็นไปของร่างกาย ฉะนั้นตอนนี้ถ้าวุ่นวายใจก็พยายามหัดฝึกสติพุทโธพุทโธ ทำใจให้สงบ อย่าไปคิดถึงร่างกาย ปล่อย ถ้าจะคิดก็คิดว่าไม่ใช่เป็นตัวเราของเรา รักษาได้ก็รักษาไป รักษาไม่ได้ก็ต้องปล่อยมันไป
...............
สนทนาธรรมบนเขา พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณทั้งวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี