ถ้าคนมีความสุขทางใจแล้ว ทางร่างกายนี้สบายมาก อยู่แบบนอนกับดินกินกับทรายได้ ไม่รู้สึกเดือดร้อนเลย สบาย ชอบซะอีก ไม่วุ่นวาย ดีกว่านั่งโต๊ะกิน ต้องใส่สูทต้องผูกเนคไท กว่าจะกินข้าวได้นี่ต้องแต่งตัวให้เหนื่อย แล้วก็ต้องกินแบบเรียบร้อย ต้องกินแบบถูกต้อง ต้องใช้ช้อนนี้ ต้องใช้ช้อนนั้น โอ๊ย เหนื่อย กว่าจะกินอิ่ม สู้กินแบบนอนกับดินกินกับทรายดีกว่า หรือฉันในบาตรนี่ สบาย ไม่ต้องใช้ช้อน ใช้มือนี่แหละ หยิบเอาสบาย หม่ำเอาสบาย นี่แหละถ้าใจมีความสุขแล้ว เรื่องการกินอยู่ทางร่างกายนี้ง่ายมาก ง่ายสุดง่ายเลย แล้วก็จะอดอยากขาดแคลนอย่างไรก็ไม่บ่น ไม่เดือดร้อน เพราะใจอิ่มตลอดเวลา ใจมีอาหารตลอดเวลา ร่างกายมันก็ไม่บ่น ไอ้ที่บ่นกันก็คือใจ ใจที่ไปหลงคิดว่าตัวเองเป็นร่างกาย จึงต้องให้ร่างกายอยู่ดีกินดี พอร่างกายไม่อยู่ดีกินดีก็บ่นขึ้นมา เท่านั้นเอง
แต่ใจที่มีปัญญาแล้วจะรู้ว่า ใจไม่ได้เป็นร่างกาย ความสุขของใจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่การอยู่ดีกินดีของร่างกาย ความสุขของใจอยู่ที่ความสงบ พอรักษาความสงบได้ตลอดเวลาแล้ว ทีนี้ร่างกายจะเป็นอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหา มีกินก็กิน ไม่มีกินก็อดไป อยู่ไม่ได้ก็ปล่อยให้มันตายไป ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องตายอยู่ดี มีกินหรือไม่มีกิน ดังนั้น ร่างกายไม่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับใจที่มีความสงบ ใจที่มีความสุข ใจนี่แหละที่ศาสนาพุทธสอนให้เรามาศึกษาและมาปฏิบัติกัน
ตอนนี้ใจของเรามีแต่ความทุกข์อยู่ทุกรูปแบบ ทุกข์กับทุกเรื่อง ทุกข์กับทุกคน แม้แต่เสียงระฆังยังทุกข์เลย เห็นไหม ได้ยินเสียงระฆังหน่อยก็ทุกข์แล้ว กลายเป็นปัญหาประเด็นของบ้านเมืองขึ้นมากับเสียงระฆังลูกเดียว ใจมันไม่มีความสุขแล้วมันทุกข์กับทุกอย่าง ทุกข์กับเสียง ทุกข์กับรูป ทุกข์กับกลิ่น ได้กลิ่นขยะมาเดี๋ยวก็ไปร้องเรียนที่เขตอีกแล้วซิ ว่ากลิ่นขยะของใครมานี่ มันจะมีปัญหาตลอดเวลา ถ้าเราหาความสุขผ่านทางร่างกาย
แต่ถ้าเราหาความสุขผ่านทางใจแล้วจะไม่มีปัญหา กลิ่นก็กลิ่นเถอะ มันโชยมาก็ห้ามมันไม่ได้ โชยมาก็ปล่อยมันโชยไป เราก็ดมไป เราหายใจก็ต้องหายใจก็หายไป หายบ่อยๆ พอชินกับมันแล้ว ดีไม่ดีจะชอบมันซะอีก คนที่เขาไปหากินแถวกองขยะ ทำไมเขาหากินได้ ทำไมเขาไม่รู้สึกรังเกียจกับกลิ่นในกองขยะล่ะ เขากลับชอบกลิ่นในกองขยะเพราะเป็นแหล่งทรัพย์ของเขา เป็นขุมทรัพย์ของเขา เขาไปเก็บเศษขยะมาขาย เก็บขวดพลาสติกกระป๋องอะไรต่างๆ เดี๋ยวเขาก็ได้เงินมาซื้ออาหารกินแล้ว
ดังนั้น มันอยู่ที่การปรับใจ ถ้าปรับใจแล้วกลิ่นเหม็นขนาดไหนก็อยู่ได้ อย่างนั้น พนักงานดูดส้วมเขาจะมาดูดส้วมให้เราได้อย่างไร เขาอยู่กับมันจนกระทั่งเขาชิน สัปเหร่อทำไมเขาอยู่กับศพได้ พวกคนที่เขาไปเก็บศพมูลนิธิปอเต๊กตึ้งนี่ ทำไมเขาไปเก็บศพได้ เพราะเขาอยู่กับมันจนชินล่ะ พอมันชินแล้ว มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่คนที่ไม่ชิน คนที่จู้จี้จุกจิกนี่แหละจะเป็นปัญหามาก กลิ่นแบบนี้ก็ไม่เอา กลิ่นแบบนั้นก็ไม่เอา สีอย่างนี้ก็ไม่เอา สีอย่างนั้นก็ไม่เอา ร้อนไปหน่อยก็ไม่เอา เย็นไปหน่อยก็ไม่เอา อะไรไปหมดนี่
พอมีเงินมีทองแล้วความจู้จี้จุกจิกมันจะออกมาแล้ว จะออกลวดลายต่างๆ แล้ว เสื้อผ้าต้องเป็นแบบนั้น รองเท้าต้องเป็นแบบนี้ วุ่นวายไปหมด จานต้องเป็นอย่างนี้ ม่านต้องเป็นแบบนั้น เฟอร์นิเจอร์ต้องเป็นแบบนี้ พอมีเงินใว้บันดาลแล้วกิเลสมันจะออกมาแล้ว ตัวจู้จี้จุกจิกต่างๆ แล้วมันได้อะไร มันก็ม่านก็เป็นม่านเหมือนกัน เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน เตียงก็เป็นเตียงเหมือนกัน ไม่มีมันก็อยู่ได้
นี่วัดนี้ไม่เห็นมีเฟอร์นิเจอร์ก็ยังอยู่ได้ ไม่เห็นต้องวุ่นวายไปกับมันเลย ลองใจมีความสุขแล้ว มันอยู่กับอะไรก็ได้ อยู่กับธรรมชาติง่ายที่สุด ไม่ต้องไปปรุงแต่ง ไม่ต้องไปดูแลรักษา ที่นี่ไม่ต้องมีคนตัดหญ้า ไม่ต้องมีคนมาแต่งต้นไม้ ให้ธรรมชาติมันแต่งให้ ให้ธรรมชาติมันตัดให้ ทุกอย่างอยู่กับธรรมชาติสบาย ถ้าใจมีความสุขแล้ว มันอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างสบายไม่วุ่นวาย ไม่จู้จี้จุกจิก ที่จู้จี้จุกจิกก็เพราะความอยากนี่แหละ ความชอบไม่ชอบ มันมีฝังอยู่ในใจ แต่ถ้าทำใจให้สงบแล้ว ความชอบไม่ชอบมันจะถูกกำจัดไป ความอยากต่างๆ ก็จะถูกกำจัดไปหมด แล้วใจก็จะอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างมีความสุข
นี่คือสิ่งที่เราต้องมาทำกันให้ได้ ตอนนี้เรากำลังเดินเข้าสู่ความทุกข์กัน ความทุกข์กำลังรอเราอยู่ข้างหน้ากัน ความแก่ ความเจ็บ ความตาย กำลังรอเราอยู่ข้างหน้ากัน การพลัดพรากจากกัน กำลังรอเราอยู่ข้างหน้ากัน เรารีบมาเปลี่ยนกระบวนการหาความสุข มาหาความสุขด้วยการมาปฏิบัติธรรม มาเจริญสติ มานั่งสมาธิ มาใช้ปัญญากัน มาเรียนรู้ให้เกิดปัญญากัน แล้วต่อไปเราก็จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกับ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ไม่ต้องเดือดร้อนกับการพลัดพรากจากกัน
...............................
สนทนาธรรมบนเขา พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี