เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ นางสุชาวดี คำเจริญ อายุ 46 ปีและนายชาลี คำเจริญ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 9 ต.ทรายมูล อ.พิบูลย์มังสาหาร จ.อุบลราชธานี แม่และพ่อของ น.ส.สุชาดา คำเจริญ หรือ "น้องพลอย" อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ ที่ถูกครูโค้ชฟุตบอลลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีจนมีแผลเป็นรอยฟกช้ำบริเวณสะโพก เดินทางมารับลูกสาว จากห้องเรียนเพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน ซึ่งในระหว่างนั้นนายวุฒิศักดิ์ ชูชื่น ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนดังกล่าวได้เชิญเข้าไปพบและพูดคุยสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักเรียนหญิงคนดังกล่าวเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ โดยไม่ได้ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเพจดังเมืองอุบลราชธานี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ลูกถูกลงโทษ ลูกทำผิด ต้องโดนขนาดนี้เกินไปไหมครับ ร.ร.ใน จ.ศรีสะเกษ เดี๋ยวรอฟังทั้งสองด้านก่อน" พร้อมกับนำรูปภาพรอยแผลถูกตีของนักเรียนมาโพสต์และมีการแชร์ภาพส่งต่อข้อความ มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่พ่อและแม่ของนักเรียนหญิงที่ถูกครูตีออกมาจากห้อง ผอ.โรงเรียนแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอพบเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมด โดยนางสุชาวดี คำเจริญ เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปรับลูกสาวกลับมาบ้านที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อทำฟัน ซึ่งในตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว มาทราบเรื่องตอนวันที่ 17 พ.ย.จากปู่ของน้องพลอย มาเล่าให้ฟัง ซึ่งก็ได้ขอดูแผลของลูกสาว ตนถึงกับอึ้งน้ำตาไหลเพราะสงสารลูก จนทำอะไรไม่ถูก เพราะเกิดมาตนและครอบครัวยังไม่เคยลงโทษลูกถึงขนาดนี้ ในวันเดียวกันซึ่งต้องพาน้องพลอย ไปส่งที่โรงเรียนจึงได้เข้าไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษไว้เป็นหลักฐาน
นางสุชาวดี เล่าต่อว่า ลูกสาวย้ายจากโรงเรียนประจำตำบลใน อ.พิบูลมังสาหาร ตั้งแต่ชั้น ม.2 เพื่อไปเรียนยังโรงเรียนประจำแห่งนี้ด้านการกีฬาใน จ.ศรีสะเกษ โดยลูกสาวเป็นนักฟุตบอลหญิงของโรงเรียน ตอนนี้ลูกสาวเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.5 แล้ว ตนได้สอบถามลูกสาวถึงสาเหตุของเหตุการณ์นี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันลอยกระทง น้องพลอยกับเพื่อนอีก 1 คนได้หนีออกนอกหอพักในโรงเรียนเพื่อออกไปกินข้าวนอกโรงเรียน ต่อมาในช่วงเย็นของวันที่ 14 พ.ย.หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จลูกสาวถูกครูดุด่าว่ากล่าวตักเตือน พร้อมกับทำโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีจนเกิดเป็นรอยฟกช้ำ ตามภาพ
"เรารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ได้พูดและรับฟังจากผู้อำนวยการโรงเรียนของลูกสาวแล้วก็รู้สึกดีขึ้น สบายใจขึ้นผู้อำนวยการได้ติดสินใจในการที่จะเรียกคุณครูผู้ที่ก่อเหตุมารายงานชี้แจงส่วนจะมีความผิดอะไรหรือไม่ก็จะอยู่ที่การชี้แจงของครูและอยู่ที่คณะกรรมการที่จะสอบสวน ส่วนเรากับพ่อเด็กเข้าใจดี ไม่ติดใจอะไร ก็จะยังให้ลูกเรียนอยู่ที่นี่ต่อไป" นางสุชาวดี กล่าว
น.ส.สุชาดา หรือ น้องพลอย กล่าวว่า ที่เกิดเรื่องทำให้ตนถูกทำโทษครั้งนี้เนื่องจากตนทำผิดกฎของโรงเรียน คือเมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ย.ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ตนกับเพื่อนอีกหนึ่งคนได้หนีออกจากหอพักไปกินข้าวข้างนอก จนวันที่ 14 พ.ย.ตนถูกครูที่เป็นโค้ชฟุตบอลใช้ไม้เรียวตีจนบาดเจ็บ
ด้านนายวุฒิศักดิ์ ชูชื่น ผอ.โรงเรียน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวันทิ่ 18 พ.ย.ในตอนเย็น และรู้แล้วว่าครูที่ตีเด็กคนไหน ขณะนี้ครูคนดังกล่าวไปราชการต่างจังหวัด คือพานักกีฬาไปแข่ง ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ครูก็รับว่าได้ทำโทษนักเรียนจริง เพราะทำผิดกฎของโรงเรียน จึงได้เรียกให้ครูกลับโรงเรียนทันทีเพื่อให้มาทำหนังสือชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษรในเรื่องราวที่เกิดภายในสัปดาห์นี้ หลังจากรับหนังสือชี้แจงแล้วก็จะได้พิจารณาว่าการกระทำของครูจะเข้าข่ายความผิดวินัยหรือไม่ ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนต่อไป
"ตอนนี้ ผมได้พูดคุยกับพ่อแม่ของนักเรียนที่ถูกทำโทษแล้ว ซึ่งทั้งพ่อและแม่ก็เข้าใจดี ตนก็เข้าใจพ่อแม่ก็ต้องรักลูกของตัวเอง ที่นี่เป็นโรงเรียนประจำ เด็กที่เข้ามาเรียนอยู่ที่นี่ พ่อแม่ของเขาก็นำมามอบและฝากไว้กับตนกับครู ซึ่งครูทุกคนก็รักและดูแลเด็กของเราเหมือนเป็นลูกของเราเอง ต่อไปนี้ผมจะป้องกันไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นายวุฒิศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี