ปราชญ์ชาวบ้าน ประธานกลุ่มผู้ปลูกดอกกระเจียวหวานและสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกผักพื้นบ้าน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เห็นด้วยกับการแบน 3 สารเคมีอันตราย เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพทำลายระบบนิเวศ ราคาแพง พร้อมเชิญชวนเกษตรกรไทยเดินหน้าทำเกษตรอินทรีย์ ส่งผลดีต่อสุขภาพและปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในกลุ่มที่เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีเสร็จสิ้น และเริ่มลงมือเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง พบว่านอกจากจะเริ่มปรับสภาพพื้นที่และปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อยแล้ว ยังมีการจับกลุ่มพูดคุย ในประเด็นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ขึ้นทะเบียน 3 สารเคมีอันตรายอีกด้วย
นายทองอินทร์ ภูมิช่อ อายุ 75 ปี ปราชญ์ชาวบ้าน ประธานกลุ่มผู้ปลูกดอกกระเจียวหวานและผักพื้นบ้าน บ้านเชียงงาม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้ขึ้นทะเบียน 3 สารเคมีอันตราย คือพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต และเหลือเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ ที่เกษตรกรไทยจะไม่สามารถใช้หรือครอบครอง 3 สารเคมีดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติให้ขึ้นทะเบียน 3 สารเคมีทางการเกษตรดังกล่าว จากเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 เป็นประเภท 4หมายถึง วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2562 เป็นต้นไป
นายทองอินทร์ กล่าวอีกว่า ประเด็นดังกล่าว ตนและสมาชิกเกษตรกร ซึ่งเน้นทำการเกษตรอินทรีย์เป็นหลัก เห็นด้วยตั้งแต่ตอนแรกที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการแบน 3 สารเคมีดังกล่าว เพราะเห็นว่าการใช้สารเคมีที่เร่งผลผลิตทางการเกษตร และถือเป็นยาแรงที่ใช้ในการกำจัดศัตรูพืชนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรงแล้ว ยังเกิดสารพิษตกค้างในดิน ในแหล่งน้ำ เจือปนในข้าว พืชผัก เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งเต็มไปด้วยพิษภัยต่อร่างกายและต่อระบบนิเวศ
"ที่ผ่านมาได้ร่วมกับสมาชิกเกษตรกรและครือข่าย รณรงค์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพมาโดยตลอด และหลังจากรัฐบาลมีมาตรการควบคุม 3 สารดังกล่าว ก็จะส่งผลดีให้กับอาชีพเกษตรกรไทยมากขึ้น คือทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคมีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ได้ผลผลิตที่สะอาด ปลอดภัย จำหน่ายได้ราคาสูง เพราะอาหารสะอาดปลอดภัยหรือกรีนมาร์เก็ต เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไป เกษตรกรที่ทำการเกษตรโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ก็จะมีอนาคตที่สดใส"
"ที่สำคัญในส่วนของการหาสิ่งมาทดแทนสารเคมีหรือยาเคมี ก็ใช้ภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ที่หาได้ง่าย ใกล้ตัว ตนและเกษตรกรทุกคนจึงเห็นด้วยกับมาตรการที่ทางรัฐบาลจะแบน 3 สารเคมีอันตรายดังกล่าว เพราะเป็นอันตายรอบด้านและมีราคาแพง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำลายระบบนิเวศ และเพิ่มทุนการผลิตให้สูงขึ้นอีกด้วย" นายทองอินทร์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี