‘สายดื่ม-ดูด-พี้’มีหนาว! เปิดศักยภาพชุดตรวจ‘ฉี่ม่วง’ ปปส.กระจายมอบสน.เมืองกรุง

27 พฤศจิกายน 2562 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับชุดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดสนับสนุนโครงการ “สังคมสีขาว” ว่า ชุดตรวจดังกล่าวที่กระทรวงยุติธรรม โดย ป.ป.ส.มอบให้กับสถานีตำรวจต่างๆนั้นสามารถตรวจหาสารเสพติดจากปัสสาวะได้ 3-4 ประเภท อาทิ กลุ่มเฮโรอีน , กลุ่มเมทแอมเฟตามีน ยาบ้า ไอซ์ เคตามีน , กลุ่มออกฤทธิ์แก้ปวดทามาดอล และกลุ่มกัญชา

ทั้งนี้ ผลการตรวจเบื้องต้นโดยชุดตรวจฯไม่สามารถยืนยันได้ 100% ยกเว้นแต่ผู้ถูกตรวจจะรับว่าใช้ยาเสพติดมา ซึ่งจะมีผลที่เรียกว่าผลบวกที่เป็นเท็จ(False  Positive) ที่คนถูกตรวจปัสสาวะอาจกินยารักษาที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับยาเสพติดก็ได้ ดังนั้นกรณีมีผลปรากฏออกมา ถ้าเจ้าตัวไม่ยอมรับว่าใช้สารเสพติด เจ้าหน้าที่จะส่งตัวอย่างปัสสาวะดังกล่าวให้แล็บ(ห้องปฏิบัติการ) ตรวจสอบ เพื่อยืนยันผลที่ชัดเจนอีกครั้ง

เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า วัตถุประสงค์การนำชุดตรวจฯมาใช้ เพื่อเป็นการสกรีนเบื้องต้นที่สามารถบ่งบอกได้ว่าผู้ถูกตรวจใช้สารเสพติดกลุ่มใด ซึ่ง ป.ป.ส.จะนำไปใช้กรณีเข้าไปในสถานบันเทิง สถานประกอบการ หรือสถานศึกษา โดยมีสิ่งที่ควรจะทำ 2 ลักษณะ คือ 1.ใครน่าจะมีพฤติการณ์ใช้สารเสพติดก็จะสุ่มตรวจเป็นรายๆไป ซึ่งผู้ถูกตรวจต้องยินยอมให้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด 2.รายใดไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายบังคับได้ เบื้องต้นหากผลตรวจเบื้องต้นออกมาเป็นบวกและรับก็จบ แต่ในรายที่ผลปรากฏว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ แล้วปฏิเสธผลตรวจ เจ้าหน้าที่จะบันทึกไว้ แล้วจะส่งตัวอย่างปัสสาวะนั้นต่อไปยังห้องปฏิบัติการ 

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวย้ำว่า สำหรับชุดตรวจฯที่ทาง ป.ป.ส.ส่งมอบให้กับสถานีตำรวจใน กทม.ไปแล้วหลายแห่งนั้น สามารถตรวจหาสารเสพติดได้ทั้งยาบ้า ไอซ์ กัญชา เมทแอมเฟตามีน เฮโรอีน แต่ขอย้ำว่าเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้น โดย

1.ผู้ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดสามารถสมัครใจที่จะเข้าไปบำบัดรักษาได้ตามนโยบายของรัฐบาลและตามคำสั่ง คสช. ที่ให้ใช้คำว่า “ผู้ต้องสงสัยตรวจพบสารเสพติด” ไม่ใช้คำว่า “ผู้ต้องหา” โดยหากดูแล้วว่าคนนั้นไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น ไม่มีคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา ไม่มีคดีรอการลงโทษ ก็ให้เข้าสู่ระบบบำบัดได้โดยที่ไม่มีความผิด ไม่มีคดี ถ้ายอมรับในขั้นตอนนี้ และยอมรับการบำบัดก็จะจบ

2.ผู้ที่ปฏิเสธการเข้าบำบัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดำเนินคดี ซึ่งขั้นตอนต่อไป คือ ส่งศาลก็จะสั่งบังคับบำบัดในระบบบังคับบำบัด หรือศาลจะสั่งลงโทษตามข้อหาเสพต่อไป

ด้านนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ต้องการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดระดับชุมชนและพื้นที่เสี่ยง ทางกระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน ป.ป.ส. จึงสนับสนุนโครงการ “สังคมสีขาว” มอบชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ คีตามีน และสารเสพติดอื่นๆ โดยที่ผ่านมาทาง ป.ป.ส.ได้มอบชุดตรวจสำหรับทดสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะให้กับหลายสถานีตำรวจ ดังนี้

# วันที่ 29 สิงหาคม 2562 มอบชุดตรวจให้กับตำรวจ 5 สน.ในพื้นที่เขตบางซื่อ-ดุสิต สน.ละ 320 ชุด

# วันที่ 24 กันยายน 2562 มอบชุดตรวจให้แก่ ผกก.สน.วัดพระยาไกร สน.บางโพงพาง และ สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.ละ 480 ชุด

# วันที่ 8 ตุลาคม 2562 มอบชุดตรวจให้สถานีตำรวจในพื้นที่เขตบางกะปิ -วังทองหลาง ทั้ง 8 สน. จำนวน สน.ละ 1,000 ชุด รวม 8,000 ชุด

# วันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 มอบชุดตรวจให้แก่ สน.ประชาสำราญ สน.ลำผักชี สน.ลำหิน สน.สุวินทวงศ์ และ สน.หนองจอก จำนวน 5,000 ชุด

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2562(เดือยกันยายน 2561-สิงหาคม 2562) สำนักงาน ป.ป.ส.ได้สนับสนุนชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1,072,040 ชุด แบ่งเป็นชุดตรวจเมทแอมเฟตามีน 725,000 ชุด , กัญชา 286,520 ชุด และคีตามีน 60,520 ชุด

ขณะที่ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เขตบางซื่อ-ดุสิต มีประชากรประมาณ 250,000 คน มีเกือบ 100 ชุมชน จากสถิติข้อมูลของระบบสารสนเทศสถานีตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่เขตบางซื่อ-ดุสิต อันดับ 1 คือ ยาเสพติด คิดเป็น 62% ซึ่งข้อมูลวันที่ 1 มกราคม-30 สิงหาคม 2562 คดียาเสพติดมีจำนวนผู้ต้องหา 2,641 คน