3 ธันวาคม 2562 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งสรุปสาระสำคัญ 17 เรื่อง ขอผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 23 กรกฎาคม 2534 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติดังนี้
1.อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 (เรื่อง การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติเรื่องการแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2543 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนโครงการอำเภอคุระบุรี แปลงที่ 1 (เกาะพระทอง) บริเวณท้องที่หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะพระทอง จังหวัดพังงา
2.ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม กรณีการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. 2556 ด้วย
สาระสำคัญของเรื่องนี้ เดิมคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2553 เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเกาะพระทอง จังหวัดพังงาด้วย แต่โดยที่พื้นที่ดำเนินการตามโครงการฯ บางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลน โครงการอำเภอคุระบุรี แปลงที่หนึ่ง บริเวณท้องที่หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 23 กรกฎาคม 2534 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี ทั้งภาครัฐและเอกชน กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
จึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 23 กรกฎาคม 2534 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาดเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยว่าการวางสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33,000 โวลต์ ความยาว 4 กิโลเมตร จากท่าเทียบเรือบ้านทุ่งละออง (ฝั่งจังหวัดพังงา) ไปยังท่าเทียบเรือบ้านทุ่งดาบ (ฝั่งเกาะพระทอง) จังหวัดพังงา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาแล้วเห็นว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนโครงการอำเภอคุระบุรีแปลงที่ 1 (เกาะพระทอง) บริเวณท้องที่ หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาแล้วเห็นชอบและอนุญาตให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้พื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบมติคณะรัฐมนตรี และข้อเสนอแนะในการอนุญาตใช้พื้นที่และการบริหารจัดการโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ได้ชี้แจงการดำเนินงานตามความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นการค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม ไม่น้อยกว่า 20 เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้เป็นประโยชน์ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดสรรเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อดำเนินการ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงบประมาณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี