วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ รร.แชงกรี-ลา ย่านบางรัก กรุงเทพฯ จ้างอั้นหมิน (Zang Anmin) Secretary-General of The Organization Department of the Central Committe of the CPC กล่าวในงานบรรยายสรุปการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 19 ซึ่งจัดโดยสมาคมวัฒนาธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน โดยตอนหนึ่งระบุว่า จีนยังคงให้ความสำคัญกับการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ
ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายขั้นพื้นฐาน ส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ฟากฝั่ง ขยายการพัฒนาและหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของ 2 ฟากฝั่ง สร้างความผาสุกร่วมกับชาวไต้หวันผ่านการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว ขณะเดียวกันยังพยายามส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศ กล่าวคือ มีระบบสภาที่ปรึกษาการเมืองซึ่งมีตัวแทนมาจากประชาชนทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่คนขับแท็กซี่ คนขับรถประจำทาง ไปจนถึงคนประกอบธุรกิจส่วนตัว และมีการประชุมใหญ่ทุกปีเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางในการพัฒนาประเทศจีน
ส่วนหน่วยงานย่อยหรือระดับท้องถิ่น มีการจัดตั้งระบบเสวนา มีศูนย์ประสานงานระหว่างประชาชนกับตัวแทนเพื่อรวบรวมปัญหาและความคิดเห็นเพื่อรวมพลังกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชนกลุ่มน้อยในประเทศ เช่น ให้สิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ หรือระบบเมืองพี่-น้อง ที่ให้พื้นที่เจริญกว่าช่วยพัฒนาเขตที่ยังมีปัญหาให้เจริญขึ้นมาทัดเทียมกัน เป็นต้น
ขณะที่ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทย ในฐานะนายกสมาคมวัฒนาธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ในการประชุมสมัชชาครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สีจิ้นผิง (Xí Jìnpíng) ประธานาธิบดีของจีน ได้ประกาศว่า ตั้งแต่ปี 2563-2593 จีนจะพัฒนาสู่การเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย หรือ Great Modern Socialist Country อย่างไรก็ตาม จีนไม่ต้องการเอาอย่างประเทศในโลกตะวันตกที่ใช้ความเหนือกว่าทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร เพื่อมุ่งทำให้โลกตกอยู่ภายใต้ระเบียบทีกำหนดโดยประเทศนั้นๆ
แต่จีนต้องการอยู่ร่วมกับทุกประเทศอย่างสันติ เท่าเทียม ไม่แทรกแซง เคารพซึ่งกันและกัน ใช้ความร่วมมือหลายฝ่ายในการเจรจาหารือและได้ผลประโยชน์ร่วมกัน บนพื้นฐานการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและแบ่งปันอนาคตร่วมกัน ถึงกระนั้นสำหรับจีนเองก็มีความท้าทายเพราะต้องหลอมรวม 3 สิ่งเข้าด้วยกันคือ 1.รักษาไว้ซึ่งระบบสังคมนิยมที่มีลักษณะแบบจีน 2.สร้างสังคมที่แบ่งปันอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และ 3.ใช้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือเชื่อมต่อในทุกด้าน หรือที่เรียกว่า Belt and Road
“ยิ่งกว่านั้นคือต้องรักษาระบบที่เรียกว่า 1 ประเทศ 2 ระบบ หรือ One Country Two Systems ไว้ให้ได้ ซึ่งท่าทีของจีนต่อปัญหาต่างๆ นั้นชัดเจน แม้แต่ในแถลงการณ์ของการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางชุดปัจจุบันก็ย้ำว่า จะธำรงไว้และปรับปรุงระบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ และให้กระบวนการนี้ก้าวหน้าไปเพื่อการรวมจีนอย่างสันติ” นายโภคิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี