18 ธันวาคม 2562 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสตูล นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พันตำรวจเอกวีรวิทย์ จันทร์จำเริญ และนางศรีสุดา รักษ์เผ่า ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน พันโท เทพจิต วีณะคุปต์ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 4 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมระดมหาแนวทางบูรณาการแก้ไขปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะ ทั้งด้านบริหารจัดการขยะ ด้านข้อพิพาทที่ดิน การรุกล้ำที่สาธารณะปิดกั้นลำรางทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนเกาะ รวมถึงปัญหาการจัดทำผังเมืองไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ชงจังหวัดสตูลทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน จับมือแก้ไขปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะอย่างรอบด้าน ร่วมกันขับเคลื่อน “หลีเป๊ะโมเดล” เป็นต้นแบบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่จังหวัดสตูลเป็นวันที่สอง หลังจากวานนี้ได้ลงตรวจสอบสภาพพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ พร้อมประชุมติดตามความคืบหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ตามคำร้องเรียนในปัญหา 3 ประเด็นหลักคือ 1) ปัญหาการบริหารจัดการขยะบนเกาะหลีเป๊ะ 2) ปัญหาการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและการรุกล้ำปิดกั้นลำรางทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนเกาะ และ 3) ปัญหาการจัดทำผังเมืองไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน นอกจากนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ (จากนอกพื้นที่) และประชากรบนเกาะเพิ่มจำนวนมากขึ้นนั้น ยังนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงทะเล ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ปัญหาการขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า
และน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค ปัญหาการเปิดจุดด่านตรวจคนเข้าเมืองบนเกาะหลีเป๊ะซ้ำซ้อน ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและสะสมมาเป็นระยะเวลานานยังไม่สามารถหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการเพื่อให้เกิดความยั่งยืนได้ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและธุรกิจการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักที่สำคัญของประชาชนในพื้นที่และประเทศส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุกปัญหาโดยตรงและที่สำคัญส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถือเป็นปัจจัยหลักในการเสริมสร้างให้เกาะหลีเป๊ะมีความเจริญในทุกด้านซึ่งปัญหาดังกล่าวควรได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเป็นองค์กรกลางในการระดมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กอ.รมน.จังหวัด นายอำเภอเมือง สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด อุทยานแห่งชาติตะรุเตา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการปักหมุดพลักดันทุกภาคส่วนร่วมมือเดินหน้า “โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ (หลีเป๊ะโมเดล)” แก้ไขปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ ตั้งเป้าให้เกิดการแก้ไขปัญหาในระยะยาว รวมถึงเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกันในพื้นที่เกาะท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป
“ผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นถึงความสำคัญปัญหาดังกล่าว พร้อมผลักดันให้เกิดการบูรณาการในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาเชิงระบบบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง และพัฒนาพื้นที่พร้อมทั้งพัฒนาประชาชนในพื้นที่ให้มีความทัดเทียมดังเช่นชุมชนอื่น และสามารถเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเกาะหลีเป๊ะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมุ่งให้หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันในเชิงการแก้ไขและเชิงป้องกันปัญหาบนเกาะหลีเป๊ะแบบ 360 องศา ซึ่งผลการดำเนินการดังกล่าว หรือ “หลีเป๊ะโมเดล” จะเป็นต้นแบบในการเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน และเป็นต้นแบบในการให้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเชิงระบบกับแหล่งท่องเที่ยวลักษณะเดียวกันในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อนำไปสู่การร่วมกันพัฒนาให้พื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยของประชาชนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน” นายบูรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี