15 ปีภัยพิบัติคลื่นยักษ์ “สึนามิ” ผ่านกับความทรงจำที่ยากจะลืม พิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม สุสานบางมรวน สถานที่ไว้ศพเหยื่อสึนามิยังมีศพร่วม 400 ศพ ทางตำรวจเฝ้าดูแลไม่ให้รกร้าง พบมีคนไทยและต่างชาติเข้าเก็บกวาด
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทำให้คลื่นยักษ์จากทะเลอันดามันซัดเข้าหาชายฝั่งของจังหวัดพังงา จนมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวไทยและประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สิ่งก่อสร้าง รีสอร์ท ร้านค้า บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ทำให้ภาครัฐต้องทุ่มงบประมาณในการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัย รวมถึงก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนมากเพื่อบอกถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าว
เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์สีนามิบ้านน้ำเค็ม ที่จังหวัดพังงา ได้ทุ่มงบประมาณในการซื้อที่ดิน และซื้อเรือประมงจำนวน 2 ลำ ที่โดนคลื่นยักษ์ซัดเขามาเกิดตื้นกลางชุมชนบ้านน้ำเค็ม เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งธรณีพิบัติภัยสึนามิก่อนที่กระทรวงวัฒนธรรมจะทุ่มงบประมาณจำนวน 2 ก้อน เป็นมูลค่า 86 ล้านบาท จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์สีนามิบ้านน้ำเค็ม พร้อมตกแต่งภายในและปรับปรุงตัวเรือทั้ง 2 ลำให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด แต่กลับพบขณะก่อสร้างตัวอาคารได้เกิดไฟลุกไหม้ตัวเรือทั้ง 2 ลำ จนต้องทำการรื้อถอนมากองเอาไว้ คล้ายเศษไม้
ล่าสุดผ่านเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิมา 15 ปี นางปิยนุช ศรีสุข วัฒนธรรมจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2560 กระทรวงวัฒนธรรมได้ทุ่มงบประมาณจำนวน 2 ก้อน เป็นเงิน 86 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์สีนามิบ้านน้ำเค็ม พร้อมตกแต่งภายในและปรับปรุงตัวเรือทั้ง 2 ลำ โดยก้อนแรกใช้เงินจำนวน 59 ล้านบาทในการก่อสร้างอาคาร แต่กลับพบว่ามีการส่งมอบงานที่ล่าช้าไปกว่า 300 วัน จึงจะทำการส่งมอบได้เป็นที่เรียบร้อย กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้ปรับผู้รับเหมาไปเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างทำหนังสือให้ผู้ชนะการประมูลในส่วนของการตกแต่งภายในและประกอบตัวเรือทั้ง 2 ลำเข้าดำเนินการต่อ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลา 365 วัน ด้วยงบประมาณ 27 บ้านบาท
จากนั้นจึงจะสามารถเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการได้ ส่วนประเด็นที่มีการเกิดไฟไหม้เรือทั้ง 2 ลำนั้น ไม่ได้กระทบต่อการปรับปรุงซ่อมแซมตัวเรือแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนที่กระทรวงวัฒนธรรมจะอนุมัติงบประมาณพบว่า เรือทั้ง 2 ลำอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โครงสร้างส่วนใหญ่ผุพังรอวันยุบตัวลงมา กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้ตั้งงบประมาณในการถอดชิ้นส่วนทั้งหมดก่อนจะทำการซ่อมแซมและประกอบกลับเพื่อให้เหมือนของเดิมมากที่สุดในงบประมาณก่อนที่ 2 อยู่แล้ว
ส่วนที่สุสานบางมรวน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นสถานที่เก็บศพเหยื่อผู้ประสบเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับการดูแลจาก ตำรวจภูธรภาค 8 โดยมอบหมายให้ สถานีตำรวจตะกั่วป่า สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พบว่าสถานที่ดังกล่าวได้รับการดูแลไม่มีหญ้าขึ้นรกร้าง ดังเช่นก่อนหน้านี้ มีการเก็บ กวาด และทำความสะอาดตามสภาพ เนื่องจากมีความเสื่อมโทรมและตะไคร้น้ำ ทำให้อาคาร สิ่งปลูกสร้างหมองคล้ำไปบ้าง สังเกตพบว่ามีการดูแลอย่างต่อเนื่อง มีการนำเครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาวหวานปักธูป อยู่ภายในบริเวณสุสาน แม้พบว่าจะไม่มีงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างให้ดูใหม่และสมบูรณ์แบบ
สำหรับอาคารและภายในพบว่า ไม่มีสิ่งของที่ส่อไปในทางมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น ดังเช่นที่เคยพบเห็นในอดีต ส่วนศพที่ฝังอยู่ใต้ดินในสุสานบางมรวนจากสถิติล่าสุดยังมีศพและชิ้นส่วนของศพที่ระบุตัวตนไม่ได้ตกค้างอยู่ 369 ศพ และยังมีศพของแรงงานชาวเมียนมาที่ได้รับการยืนยันตัวตนแล้วอีก 25 ศพ ล่าสุดก็มีมาอีกรายเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา สาเหตุส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถส่งกลับภูมิลำเนาได้ เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ว่าเป็นใคร สัญชาติใด บางรายมีเพียงชิ้นส่วน
อีกสาเหตุคือเมื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้และติดต่อญาติแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ และสาเหตุติดต่อญาติไม่ได้ ทำให้ศพที่สุสานบางมรวน ที่เหลืออยู่ไม่มีการส่งกลับ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ
ทางนายฟุ แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ กล่าวว่า ตนมาทำงานในพื้นที่บางม่วงมานาน กระทั่งนายจ้างเสียชีวิตทำให้ตนต้องเร่ร่อนอาศัยกองขยะเป็นสถานที่ทำงานหาขยะรีไซเคิ้ลใกล้กับสุสานบางมรวน ทำให้ต้องผ่านสุสานบางมรวนทุกวัน เห็นว่ามีคนช่วยดูแลสุสาน เข้ามา เก็บกวาด ตัดหญ้า และทำความสะอาดอยู่เสมอ ที่พบเจอบ่อย คือครอบครัวชาวต่างชาติที่อาศัยบ้านอยู่ใกล้บริเวณสุสานบางมรวน มักจะเข้าไปภายในสุสานบ่อยครั้ง เพื่อช่วยทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว
ด้านนายวิรัตน์ สุวรรณพงษ์ อายุ 77 ปี ชาวบ้านบางมรวน กล่าวว่า ตนเองผ่านไปมาเห็นมีชายขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเข้าไปภายในสุสานใช้เครื่องตัดหญ้าบ่อยครั้ง เดือนละประมาณ 2-3 ครั้ง พร้อมกับเก็บกวาดเศษหญ้าเศษใบไม้ กิ่งไม้เผาเป็นประจำ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางม่วง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี