จังหวัดเชียงรายจัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน เชียงแสน สองฝั่งโขง เชื่อมไทย-ลาว ท่องเที่ยวอนุลุ่มแม่น้ำโขง รายได้ส่วนหนึ่งจัดซื้อเครื่องพิมพ์ดีดอักษรเบลให้กับโรงเรียนคนตาบอด ระหว่าง 11-12 มกราคมนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน
วันที่ 6 มกราคม 2563 ที่ห้องวาวี โรงแรมเดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางลลิดา ตงศิริกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายชูสวัสดิ์ สวัสดี ปลัดอำเภอเชียงแสน นายศรันย์พัส ศรีสวัสดิ์ ตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และ ผศ.พิมพากรณ์ วงศ์เตชะนนท์ ผู้บริหารบริษัทมหานครเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ร่วมกันแถลงความพร้อมการจัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน เชียงแสน สองฝั่งโขง เชื่อมไทย-ลาว ท่องเที่ยวอนุลุ่มแม่น้ำโขง "Chians Saen Hatf Marathon Tour 2020” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2563 ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ซึ่งจะมีทั้งการแสดงคอนเสิร์ตและการเดินวิ่ง
ล่าสุดมีผู้สมัครแล้วมากกว่า 3,000 คน โดยกิจกรรมเริ่มตั้งวันที่ 11 มกราคม 2563 มีการแสดงคอนเสิร์ต จากนักร้องชื่อดังมากมาย ณ ลานด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน และวันที่ 12 มกราคม 2563 ก็จะเป็นวันวิ่งมินิมาราธอน เชียงแสน สองฝั่งโขง ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดเพื่อเป็นการส่งเสริมการกีฬา การท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนได้มีสุขภาพลานามัยที่แข็งแรจากการออกกำลังกาย
โดย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองแห่งกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงมากมายที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเมืองที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว ประเทศเมียนมา ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งผลักดันให้จังหวัดเชียงรายได้เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในด้านการกีฬาพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย ทั้งนี้ การจัดแสดง คอนเสิร์ต ยังเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและนำรายได้ส่วนหนึ่ง มาจัดซื้อเครื่องพิมพ์ดีดอักษรเบล ให้กับโรงเรียนคนตาบอด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ด้วย
นางลลิดา กล่าวว่า ในด้านการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น Sport Destination รวมถึงการจัดวิ่ง รายการต่างๆ ซึ่งกิจกรรมเดินวิ่ง มินิมาราธอน เชียงแสน สองฝั่งโขง เชื่อมโยง ไทยลาว ท่องเที่ยวอนุภาคลุ่มน้ำโขง (ไทย ลาว เมียนมา จีน) ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพและส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปพร้อมกัน
ด้วยจังหวัดเชียงรายมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน มีพื้นที่ซึ่งเรียกว่า "สามเหลี่ยมทองคำ" เป็นบริเวณที่บรรจบกันของชายแดนสามประเทศ คือ ไทย ลาว และเมียนมา โดยมีน้ำโขงเป็นแนวเขตธรรมชาติ พร้อมด้วยแหล่งโบราณคดี "เมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน" และมีท่าเรือขนส่งสินค้าที่สำคัญในภาคเหนือ มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและการคมนาคมที่สามารถเดินทางเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้า
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสามารถส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโชง ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในภาพของธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน เชียงแสน สองฝั่งโขง เชื่อมโยงไทย-ลาว จะมีเงินหมุนเวียนในพื้นที่กว่า 17 ล้านบาท โดยคาดการณ์จากผู้ร่วมกิจกรรมที่จะมากถึง 6,000 คน แยกเป็น คนในพื้นที่ 1,000 คน คนนอกพื้นที่ 5,000 คน ซึ่งรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แจ้งคามจำนงจะมาวิ่ง
นายชูสวัสดิ์ ได้กล่าวถึงความพร้อมของการจัดงานในด้านต่าง ๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยทั้งในงานคอนเสิร์ตและกิจกรรมเดิน-วิ่งมินิมาราธอน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทรัพย์สินและผู้ที่มาเข้าร่วมงาน รวมถึงการจราจรให้มีความคล่องตัวลดการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ กับผู้ที่สัญจรและนักวิ่งในเส้นทางการจัดกิจกรรมครั้งนี้ พร้อมประสานขอพื้นที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงานครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี