วันที่ 13 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ที่บ้านของนางหวด เติมกล้า หรือ คุณยายหวด อายุ 86 ปี บ้านเลข 226 ตำบลสลักได อำเภอ เมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ได้มีการทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื้อของชาติพันธุ์เขมรโบราณพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์ โดยการเชิญหมอครูประจำหมู่บ้านมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยการทำขันครูและทำแพสะเดาะเคราะห์ ซึ่งแพนี้มีชั้นถึง 7 ชั้นปกติจะทำชั้นเดียว
คุณยายหวด เล่าว่า เมื่อ 3-4 วันก่อน ตนฝันว่าสามีตนที่เสียชีวิตไปนานแล้วมาชวนไปอยู่ด้วย พอตื่นเช้ามาก็รู้สึกปวดเอวมาก ขยับร่างกายไม่ค่อยได้ จึงได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เมื่อกลับมายังปรากฏว่าอาการยังไม่ดีขึ้นทั้งให้คนมานวดและกินยาก็ยังปวดหลังปวดเอวเหมือนเดิม จึงได้ไปที่วัดดังแห่งหนึ่ง หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ทำบุญต่ออายุในวันจันทร์โดยให้นิมนต์พระ 5 รูปหรือ 7 รูปก็ได้
เช้าวันนี้จึงได้ทำบุญนิมนต์พระ 5 รูปเลี้ยงภัตตาหารเพล ถวายสังฆทานและประกอบพิธีทางโบราณ มีหมอครูพระจำหมู่บ้าน เพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา มีการทำขันธ์ครูประกอบไปด้วย ข้าวสารที่ตวงใส่ภาชนะให้ได้เกินกว่าอายุ คือ ต้องตวงข้าวสารให้ได้กว่า 86 ครั้ง มีกรวยต่างๆธูปเทียน 99 เล่ม เงิน 12 บาท ผลไม้ ข้าวตอก ข้าวต้ม หัวหมู ไก่ต้ม ฯลฯ จัดเป็นพานครูของผู้เจ็บป่วย และมีจัด บูชาข้าวตอกดอกไม้ ไม้ครู ไม้ตัวแทน ค้ำโพธิ์ ไว้กลางแจ้งอีกหนึ่งชุด มีการทำแพสะเดาะเคราะห์ที่มีถึง 7 ชั้นและบังสุกุลเป็น ทำทีแกล้งตาย ตามความเชื่อ เพื่อหลอกยมทูต คืนเสริมสิริอายุยืน
ซึ่งการที่ทำแพถึง 7 ชั้นนี้คือการทำการสะเดาะเคราะห์ใหญ่ ดูจำนวนชั้นของแพ ชั้นบนสุดของแพจะแบ่งเป็นส่วนๆเพื่อนำอาหารคาวหวาน ข้าวตอกดอกไม้ มาใส่ไว้รอบๆ ขอบแพ มีไม้ปักธงรอบๆ และยังมีอีกหนึ่งแพเป็นรูป สามเหลี่ยม มีชั้นเดียวมีขนาดเล็กกว่า ใส่ขนมข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน เครื่องบูชามีธงปักรอบๆเช่นเดียวกัน แล้วนำไปประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ เมื่อประกบพิธีเสร็จก็จะนำ แพไปวางไว้ที่ต้นไม้ใหญ่เปรียบเหมือนเป็นการนำเคราะห์ต่างๆ ออกจากผู้ป่วยไปทิ้งให้ห่างไกลไม่กลับมาอีก
การสะเดาเคราะห์นี้เป็นศาสตร์แต่โบราณนานมาแล้วเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่อยู่คู่กับวิถีชาวบ้านเป็นการรักษาโรคที่มีกุศโลบายในการรักษาของหมอครูประจำถิ่น เป็นการรวบรวมกำลังใจให้ผู้เจ็บป่วยอย่างดียิ่ง เพราะมีผู้ประกอบพิธีให้ตน มีการรวมญาติและเพื่อนบ้านในวันสะเดาะเคราะห์ จึงเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่จึงเกิดผลให้ผู้ที่ เจ็บป่วยหายจากอาการเจ็บป่วยในปัจจุบันหรือทุเลาลงอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะไม่ว่าจะไปหาหมอแผนปัจจุบัน หาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ อาการก็ไม่ดีขึ้น แต่เมื่อการสะเดาะเคราะห์อาการต่างๆกลับดีขึ้นตามลำดับๆจึงเป็นศาสตร์ที่ควรอนุรักษ์เพื่อให้ศาสตร์โบราณนี้คงอยู่สืบไปควบคู่กับประเพณีอันดีของชาวอีสานไต้ เมื่อมีความศรัทธาและความเชื่อถือศาสตร์นี้ก็จะยังคงอยู่คู่วิถีไทยตลอดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี