กรณี SMART Soldiers Strong ARMY โพสต์เรื่องราว จากกรณีเหตุปล้นร้านทองพื้นที่ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตถึง 3 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 4 รายนั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะต้องมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ หากไม่ได้พลเมืองดี 4 คนเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บในเบื้องต้น และอยู่กับผู้บาดเจ็บตลอดเวลาจนกระทั่งรถพยาบาลมารับช่วงต่อ ซึ่งแอดมินก็มารู้เอาภายหลัง ว่าทั้ง 4 คนที่เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล พวกเขาคือกำลังพลของกองทัพบกที่สังกัดอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรีนั่นเอง
( ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชื่นชม! '4พลเมืองดี'รุดช่วยคนเจ็บ คืนชิงทองลพบุรี สืบจนพบที่แท้'กำลังพล ทบ.' )
ล่าสุด Thailand Vision เผยการเปิดใจครั้งแรกของ 4 พลเมืองดี ที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อน
ส.ท.ชยพล พุทธิ
นายสิบการช่างและทำลาย ชุดปฏิบัติการรบพิเศษ กองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1
“ขณะเกิดเหตุตนรับประทานอาหารอยู่ สังเกตุว่าบริเวณหน้าร้านมีการวิ่งหนีอะไรสักอย่าง ไม่กี่อึดใจแม่น้องไทตัลวิ่งอุ้มน้องเข้ามาในร้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อได้ออกมาดูเหตุการณ์ที่บริเวณที่เกิดเหตุ พบสองสามี-ภรรยาที่ถูกยิง ตนจึงได้ทำการประเมิน เพื่อเข้าช่วยเหลือ”
นางสาววราภรณ์ วรภัฎ
ตำแหน่ง: พยาบาลวิชาชีพอัตราจ้าง ปฏิบัติงานอยู่ที่ โรงพยาบาลอานันทมหิดล แผนกอายุรกรรมหญิง ชั้น 3 (A3)
“ขณะที่ตน และสามีเดินลงบันไดเลื่อนสำรวจรอบๆ หลังจากเหตุการณ์สงบ ได้พบรอยเลือดจำนวนมาก จึงรีบแสดงตนกับทางรปภ. ของห้าง เพื่อเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาล พบผู้ป่วยมีแผลถูกยิงบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา แต่ยังมีสติดี จึงรีบกด stop bleed ทันที แล้วจึงร้องขอผ้าจากพนักงาน เพื่อใช้กดแทนมือ เมื่อรถพยาบาลมา จึงช่วยพาผู้ป่วยขึ้นเปลเคลื่อนย้าย และช่วยหาสายออกซิเจน (mask with bag) หลังจากประเมินแล้วว่าการช่วยเหลือครบถ้วน จึงหลีกทางให้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง รถพยาบาลได้อย่างสะดวก”
ส.ท.ปกรณ์ ละออง
เจ้าหน้าที่กรรมวิธีข้อมูล สังกัด กองพันเสนารักษ์ที่ 1
“เมื่อเสียงปืนเงียบ ตนจึงวิ่งไปช่วยน้องไทตัลซึ่งถูกยิงอยู่ในอ้อมกอดแม่ เมื่อทำการตรวจสอบสัญญาณชีพ และดูลมหายใจ พบว่าไม่มีลมหายใจแล้วและชีพจรอ่อนมาก ประเมินแล้วว่าน่าจะหนักมาก จึงวิ่งไปหาคนที่พอจะช่วยได้ หลังจากนั้น ตนได้เข้าไปช่วยเหลือชายเสื้อขาว พ่อ แม่ ลูก ซึ่งกำลังยืนซื้อทอง และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ตนได้ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยการจัดท่าผู้ป่วยให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัย”
ส.อ.คมกฤษ เบญจปรีชาสิทธิ์
นายสิบพยาบาล ชุดปฏิบัติการพิเศษ สังกัด กองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
“ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจากทางชั้นล่าง มองลงไปเห็นคนร้ายกำลังกวาดทองในตู้โชว์ จึงบอกให้ประชาชนหลบเพราะอันตราย หลังเสียงปืนเงียบ ตนลงมาจากชั้น 2 และเห็นน้องไทตัลถูกยิงอยู่ในอ้อมกอดแม่ หลังจากนั้นตนได้เข้าไปในเคาน์เตอร์ภายในร้านทอง พบผู้ได้รับบาดเจ็บสองคน คนหนึ่งอาการหนัก จึงได้ให้การช่วยเหลือด้วยการทำ CPR จนมีพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือคนป่วย ตนจึงออกมาช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด ให้กับชายเสื้อขาวพ่อ แม่ ลูก นอกเคาน์เตอร์ และนำส่งรถพยาบาลเพื่อส่งโรงพยาบาลต่อไป”
เพจ "ข่าวอุดร ข่าวโฮมเคเบิ้ล" ได้โพสต์ภาพและข้อความชื่นชมพนักงานเซเว่น ซึ่งเป็นพลเมืองดีสามารถเก็บสร้อยคอทองคำ 1 บาทได้แล้วส่งคืนเ
หนุ่มพลเมืองดีเก็บบัตร ATM ที่เจ้าของลืมไว้คาตู้ แล้วนำไปโพสต์ตามหาเจ้าของในโซเชียล แต่กลับถูกมิจฉาชีพแอบนำหมายเลขบนบัตรไปซื้อสินค้าออนไลน์สูญเงินไปก
กรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเองบนถนนเส้นทางบ้านหมี่-หนองม่วง ต.ดอนดึง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เมื่อเวลา 22.00 น. จึงมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจาก 2 หน่วยงานรุดเข้าช่วยเหลือคนเจ็บ แต่เหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นซึ่งรถกระบะ สีดำ ขับมาด้วยความเร็วเสียหลักพุ่งชนทั้งคนเจ็บและอาสาฯกู้ภัยทั้ง 2 หน่วยงาน
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 เพจเฟซบุ๊กชื่อ "Korat Next Step" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า #ช่วยกันตามหาพลเมืองดี ผู้ว่าฯโคราชประกาศตามหาพลเมืองดีเสี่
23 มกราคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก
สามี‘น้องกวาง’โพสต์เศร้า ครบรอบ 10 ปีชีวิตคู่ วันเดียวกับที่จับ‘โจรชิงทอง’ได้
วันที่ 22 มกราคม 2563 ความคืบหน้าการจับกุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผอ.โรงเรียนใน จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนเก็บเสียงบุก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี