26 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรบ้านโคกกลาง ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลายครัวเรือน ที่อยู่ในเขตชลประทานรอบพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ได้หันมาปรับสภาพพื้นที่นา และที่บริเวณใกล้บ้านปลูกผักสวนครัว ทั้งผักชี กระเพรา โหระพา แมงลัก กะหล่ำดอก และแตงกวา พืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย ขายเป็นรายได้เสริมช่วงประสบปัญหาภัยแล้ง แทนการเพาะปลูกข้าวนาปรังที่ใช้น้ำมาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำและผลผลิตเสียหาย
โดยเกษตรกรจะใช้ระยะเวลาในการปลูกผักเพียงกว่า 30 วันเท่านั้น ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้าในหมู่บ้านมารับซื้อถึงแปลงปลูกผัก แต่ก็มีบางรายนำไปขายเองที่ตลาดสด ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมช่วงประสบกับปัญหาภัยแล้งหนักให้กับเกษตรกร รายละ 500-1,000 บาท ต่อวัน ทั้งยังเป็นการลดปัญหาการอพยพเคลื่อนย้ายออกไปขายแรงงานยังต่างถิ่นได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนางแจ๋ว อิสระพล ชาวบ้านบ้านโคกตาล ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดมีสภาพตื้นเขินแห้งขอดมาต่อเนื่อง 2 ปีแล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องหันมาปลูกผักสวนครัวขายในประสบกับปัญหาภัยแล้งหนัก เพราะไม่สามารถทำนาปรังได้ ประกอบกับทางชลประทานจังหวัด ได้ขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรัง ปีนี้จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการปลูกข้าวนาปรังหันมาปลูกผักสวนครัว ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยแทน
อีกทั้งการปลูกผักสวนครัวใช้เวลาเพียงกว่า 30 วัน ก็เก็บผลผลิตขายได้ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน ซึ่งก็สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี