วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
'ลุงน้อย' นศ.วัย56น้ำตาซึม! ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยจ่ายค่าเรียนให้จบปริญญาตรี

'ลุงน้อย' นศ.วัย56น้ำตาซึม! ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยจ่ายค่าเรียนให้จบปริญญาตรี

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563, 15.55 น.
Tag : จ่ายค่าเรียน ธารน้ำใจ นักศึกษา น้ำตาซึม หลั่งไหลช่วย วัย56
  •  

ไม่มีใครแก่เกินเรียน!!! ธารน้ำใจจากชาวโซลเชียลหลังไหลบริจาคเงินช่วย "ลุงน้อย" วัย 56 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ่ายค่าเรียนหลังเงินที่เก็บสะสมไว้เรียนต่อหมด แม้ความเป็นอยู่ยากลำบากแต่ตั้งฝันเรียนจบปริญญาตรี

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กของสาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้โพสต์เรื่องราวของนักศึกษารายหนึ่ง คือ นายวิรัชชัย  สงวนสิน หรือลุงนัอย อายุ 56 ปี นักศึกษาภาคเสาร์-อาทิตย์ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และเป็นนักศึกษาที่อายุมากที่สุดในชั้นเรียน ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เทอม 2 แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนจึงเดินทางมาพบอาจารย์ที่ปรึกษาและแจ้งอาจารย์ว่าจะขอลาออกเนื่องจากไม่มีค่าเทอมแล้ว สร้างความตกใจให้กับคณะอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นเป็นอย่างมาก 


 

 

เพราะว่าลุงน้อยมีความตั้งใจเรียนดีและมีความตั้งใจที่จะเรียนให้จบเพื่อรับใบปริญญาตามความฝันที่หวังไว้ เพราะปริญญาคือเป้าหมายในชีวิตลุง จึงนำเงินที่ได้จากการสะสมเก็บหอมรอมริบขณะไปทำงานมาเป็นค่าเทอมตั้งแต่ปีแรกจนถึงวันนี้เงินไม่มีเหลืออีกแล้ว ด้วยความเห็นใจของคณะอาจารย์จึงปรึกษากันว่าจะลงเรื่องราวของลุงน้อยในเพจเฟซบุ๊กของสาขาวิชาภาษไทยที่ลุงน้อยเรียนอยู่ เพื่อให้ศิษย์เก่าที่มีจิตเมตตาช่วยกันบริจาคเป็นค่าเทอม แต่ปรากฏว่าหลังจากเผยแพร่ออกไปมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาให้กำลังใจพร้อมแชร์กันเป็นจำนวนมาก จนขณะนี้ยอดเงินในบัญชีของลุงน้อยเพียงพอเป็นค่าเล่าเรียนเรียบร้อยแล้ว ทางคณะอาจารย์จึงขออนุญาตปิดรับบริจาคทุนการศึกษาและขอบคุณผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือลุงน้อยให้ได้เรียนสำเร็จตามที่หวังไว้

ต่อมวันที่ 30 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่ดินด้านหลังโรงเรียนวัดโคกสลุด หมู่ 2 บ้านโคกสลุด ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ดินเนื้อที่ประมาณ 60 ตร.ว. ปลูกสร้างลักษณะเป็นเพิงพักก่อด้วยอิฐบล็อคสูงกว่า 1 เมตร มุงด้วยสังกะสี ไม่มีฝาบ้าน มีเพียงแคร่ไม้และมุ้งใช้สำหรับนอน ไม่คุ้มแดดคุ้มฝน ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า ส่วนห้องส้วมก็ใช้งานไม่ได้ ไม่มีเลขที่แต่อย่างใด 

 

 

พบกับนายวิรัชชัย สงวนสิน หรือลุงน้อย อายุ 56 ปี นักศึกษาภาคเสาร์-อาทิตย์ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่เพิ่งกลับจากนำรถจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนยาง เมื่อสอบถามเรื่องราวลุงน้อยถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองเคยไปทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่ กทม. เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี หลังจากนั้นตนเองก็มีเงินเก็บจำนวน 70,000 บาท จึงตัดสินใจกับมาอยู่ที่บ้านเกิด ส่วนพ่อกับแม่นั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่มีครอบครัวอยู่ตัวคนเดียว และมาหาซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท

ส่วนเงินที่เหลือตั้งใจเอาไว้ว่าจะเก็บไว้เรียนต่อปริญญาตรี เพราะก่อนหน้านี้เคยไปเรียน กศน.จนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จึงไปสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมืองพิษณุโลก โดยเลือกเรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะมีความตั้งใจแต่เด็กว่าอยากจะเป็นคุณครูสอนหนังสือให้เด็กๆ ถึงแม้อายุจะล่วงมาถึงวัยกลางคนแล้วก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจอันแน่วแน่ จะต้องเรียนจบคว้าใบปริญญามาให้ได้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน แต่ระยะหลังตนเองหารายได้จากอาชีพรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้านได้น้อย จึงต้องทำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายบ้างจนเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าเทอมในชั้นเรียนปีที่ 2 เทอม 2 เหลือเงินติดบัญชีเพียง 20 บาทเท่านั้น และไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ญาติพี่น้องก็ไม่มี ก่อนจะตัดสินใจเดินทางจากบ้านไปแจ้งกับอาจารย์ผู้สอนว่าจะขอลาออกดังกล่าว 

 

 

หลังจากนั้นจึงได้มีการพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะเห็นว่าตนเองเรียนมาถึงขั้นนี้แล้วไม่อยากให้เสียโอกาส อยากให้เรียนไปจนจบชั้นปีที่ 4 จะขอทุน กยศ. จากมหาวิทยาลัยก็ไม่เข้าเงื่อนไขเนื่องจากอายุเกิน ส่วนทุนของมหาวิทยาลัยจะต้องขอพิจารณาในปีหน้า อาจารย์จึงตัดสินใจนำเรื่องราวไปโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลกระทั่งมีกลุ่มนักศึกษาและผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินสบทบทุนการศึกษาเข้าบัญชีจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเรียนจนจบหลักสูตรจึงขอปิดรับบริจาค ถ้าหากเงินที่ได้รับบริจาคมาเพียงพอเหลืออยู่ก็จะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับรุ่นน้องคนอื่นๆ

ขณะที่ อาจารย์ปฐมพงษ์ สุขเล็ก อาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น พร้อมด้วยอาจารย์ธีรพัฒน์ พูลทอง รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิลปวัฒนธรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้เดินทางไปติดความความคืบหน้า เปิดเผยว่า ลุงน้อยเป็นนักศึกษาที่มีความตั้งใจเรียนดีมาก ถึงแม้จะช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ เนื่องจากอายุต่างกันมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและวัยรุ่น ทุกคนในชั้นเรียนจะคอยช่วยเหลือลุงน้อยหากมีข้อสงสัย การเรียนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 2.5 ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ลุงน้อยจะขี่รถจักรยายนต์คู่ใจจาก อ.บางกระทุ่ม เข้ามาเรียนในตัว อ.เมืองพิษณุโลก เป็นระยะทางไปกลับถึง 80 กม. 

 

 

ที่ผ่านมาเรื่องค่าเล่าเรียนไม่เคยมีปัญหาเพราะลุงน้อยมีเงินเก็บจากการทำงานที่สะสมไว้ กระทั่งเข้าสู่ชั้นปีที่ 2 เทอม 2 การเงินลุงน้อยเริ่มมีปัญหาไม่สามารถหามาจ่ายค่าเทอมได้ทันเวลา ด้วยความกังวลและหาทางออกไม่ได้จึงเดินทางมาพบกับอาจารย์เพื่อขอลาออก เพื่อนร่วมใจด้วยความสงสารจึงแอบติดตามไปที่บ้านก็พบกับภาพสุดเวทนา เมื่อเห็นสภาพบ้านของลุงน้อยเป็นเพียงเพิงพักเล็กๆ ในสวนต้นกล้วย ไม่มีฝาบ้าน มุงหลังคาสังกะสี ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าใช้ เวลาจะทำการบ้านตอนกลางคืนต้องจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่าง หรือเวลาจะเข้าห้องน้ำต้องไปขออาศัยเพื่อนบ้าน หรือวัดใกล้เคียง ชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบากมาก 

แต่ลุงน้อยก็บอกว่าอยู่จนเคยชินแล้ว เพราะแต่ชีวิตวัยเด็กลำบากมาตลอด สร้างความสงสารให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตนำเรื่องของลุงน้อยไปโพสต์เพื่อขอบริจาคเป็นค่าเทอมจำนวน 8,000 บาท และไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ที่เห็นใจบริจาคเงินมาเป็นจำนวนมากจนเพียงพอแล้วจึงขอยุติการขอรับบริจาค ส่วนเรื่องที่ว่ายอดเงินขณะนี้อยู่ที่เท่าใดนั้นจะต้องพาลุงน้อยไปทำธุรกรรมทางการเงิน พร้อมพาลุงน้อยไปพบกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยเพื่อพูดคุยในการจัดการค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนให้แล้วเสร็จตามขั้นตอนต่อไป

 

 

ส่วนเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมที่พักอาศัยให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นนั้น ลุงน้อยก็ยินดีถ้าหากมีผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือ แต่เรื่องของค่าเล่าเรียนขณะนี้เพียงพอจนเรียนจบหลักสูตร ส่วนเงินที่เหลือจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ยากไร้รุ่นอื่นๆ ต่อไป

ด้านนายสุทธินันท์ สีกะพา หัวหน้าห้องเรียนของลุงน้อย บอกว่า เห็นลุงน้อยเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ปี 1 แล้วและวันหนึ่งก็ชักชวนเพื่อนในห้องแอบตามลุงน้อย มาดูบ้านพัก เนื่องจากสงสัยว่าทำไมลุงน้อย ไม่ค่อยพูดถึงบ้านของตน หลังจากได้เห็นบ้านของลุงน้อย แล้ว รู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก ตนจึงนำเรื่องไปปรึกษาอาจารย์ประจำคณะ และเพื่อนที่คณะเทคโนโลยีฯ เพื่อที่จะหาทางนำแผงโซล่าเซลล์มาติดตั้งให้ใช้ไฟฟ้าไปก่อน และจะหาวิธีทางช่วยกันซ่อมแซมบ้านที่อยู่ให้มิดชิดอีกครั้ง
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

(คลิป) สรุป! เหตุปะทะ 'ปราสาทตาเมือนธม' 'มนุษย์ป้าเขมร' หรือ แผนเช็คกำลังทหารไทย

'รสนา'วอนศาลเมตตา'ฟ้า สุทธินี' จำเลยคดี ม.112 ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ

'ภูมิธรรม' ถือเค้กอวยพรวันเกิด 'ปลัดมหาดไทย' ชมช่วยทำงานผลักดันนโยบายสำคัญ

‘ทักษิณ’น่าจะรอด? ‘อ.ไชยันต์’วิเคราะห์คดี‘ม.112’ หลังศาลนัดชี้ชะตา 22 สิงหา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved