วันที่ 6 ก.พ.63 ที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 10 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มีฟาร์มนกกรงหัวจุก หรือนกปรอทหัวโขน แห่งหนึ่งที่สามารถพัฒนาสายพันธุ์นกรงหัวจุก หรือนกปรอทหัวโขน จนกลายเป็นนกสามสายเดือด และมีลักษณะเด่นเป็นนกกรงหัวจุกเผือกเป็นตัวแรกในจังหวัดนครศรีธรรมราช หรืออาจเป็นนกตัวแรกตัวเดียวของประเทศไทยอีกด้วย ขณะที่ราคาซื้อขายนกกรงหัวจุกเผือกตัวดังกล่าวมีราคาสูง ถึง 180,000 บาท แต่ทางเจ้าของฟาร์มไม่ขาย เนื่องจากตั้งใจเลี้ยงไว้ขยายพันธุ์ต่อไป
นายศุภกิจ มากช่วย เจ้าของฟาร์มศุภกิจทัศวรรณฟาร์ม เปิดเผยว่า นกกรงหัวจุก หรือนกปรอทหัวโขน สีเผือก ตัวดังกล่าวมีชื่อว่า "เจ้าเมษา" อายุ 8 เดือน ส่วนประวัติความเป็นมาเป็นตนผู้คิดค้นและเพาะฝักสายพันธุ์หลังจากศึกษาและเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2554 พร้อมกับขออนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์สงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อปี 2555 จนกลายเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงนกรงหัวจุกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ มีการส่งออกจำหน่ายทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และต่างจังหวัด
นายศุภกิจ เผยอีกว่า กว่าจะออกมาเป็น "เจ้าเมษา" นกรงหัวจุกเผือกตัวแรกนั้น เป็นการผสมระหว่างนกกรงหัวจุก 3 สายพันธุ์ คือ นกกรงหัวจุกสายพันธุ์อินโด นกกรงดอกแตง และนกกรงหน้านวล ซึ่งนกทั้ง 3 สายพันธ์ มีความโดดเด่นที่มีสีขาวเผือกสวยงามตลอดทั้งตัว นอกจากนี้ เจ้าเมษา ยังเป็นนกกรงหัวจุกที่มีเสียงร้องไพเราะที่สำคัญสามารถร้องเบิ้ลเสียงได้มากถึง 2 - 3 ชุด หรือ 2 - 3 รอบ ด้วยความสุดยอดนก 3 สายพันธุ์ ทำให้ เจ้าเมษา เป็นที่หมายตาของผู้ที่ชื่นชอบเล่นนก หรือนักเลงนก ผรวมทั้งผู้ที่เลี้ยงนกเพื่อความสวยงาม ติดต่อขอซื้อ เจ้าเมษา ราคาตัวละ 180,000 บาท แต่ตนตัดสินใจไม่ขาย เพราะ เจ้าเมษา เป็นนกพันธ์พิเศษตัวเดียวละตัวแรก จึงอยากเก็บไว้เพาะขยายพันธ์ต่อไป ส่วนการเพาะพันธ์นกกรงหัวจุกที่ฟาร์มมีการขยายและพัฒนาสายพันธ์นกกรงหัวจุกได้ประมาณ 1,000 ตัวต่อปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี