ผ่านพ้นไปแล้วกับการฝึกร่วมผสมทางทหาร “คอบร้าโกลด์” ประจำปี 2563 หรือ Cobra Gold 2020 ที่กองทัพไทยกับสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพร่วมกันมาอย่างยาวนาน โดยล่าสุดเป็นครั้งที่ 39 นอกจากการฝึกซ้อมปฏิบัติการทางทหารแล้วยังมีการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance and Disaster Relief : HADR DEMO) ระหว่างกองทัพและหน่วยกู้ภัยของชาติต่างๆ ด้วย ซึ่ง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมการฝึก (EXCON) ในสถานีฝึกดินโคลนถล่ม
นายธเนศ วีระศิริ นายก วสท. ระบุว่า การฝึกดังกล่าวมี 3 สถานี ประกอบด้วย สถานีดินโคลนถล่ม สถานีตึกถล่ม และสถานีน้ำท่วม เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึก พัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธร่วม-ผสมประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ รวมทั้งการฝึกใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติและฝ่ายพลเรือน เพื่อให้นานาประเทศมีความเข้าใจตรงกันและมีความพร้อมปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากสถานการณ์สาธารณภัยเกิดขึ้นจริง
หนึ่งในกิจกรรมการฝึกของประเทศไทยที่สร้างความประทับใจให้แก่ทหารนานาชาติและผู้ที่เข้าร่วมโครงการ HADR DEMO เป็นอย่างมาก คือการนำ “สุนัขกู้ภัย” และ “ช้างกู้ภัย” ของมูลนิธิพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มาเข้าร่วมการฝึกช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างลงตัว ช้างกู้ภัย ที่ได้รับการฝึกฝนจะเป็นทีมแรกที่เข้าทำการเคลียร์พื้นที่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ทุรกันดาร หรือยากต่อการเข้าถึงด้วยรถยนต์ ช้างกู้ภัยที่ได้รับการฝึกจึงเปรียบเสมือนยานพาหนะที่สามารถเดินไปในเส้นทางที่มีความยากลำบาก และมีอุปสรรคขวางกั้นได้ดี
โดยช้างกู้ภัย 1 ทีม จะประกอบด้วย 1.คนเดินนำช้าง 2 คน ทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการลากจูงหรือจัดการสิ่งที่กีดขวาง รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางให้ช้างเดินได้อย่างปลอดภัย 2.จตุลังคบาท ทั้ง 4 คน คอยดูแลและระวังเท้าช้าง 3.ควาญช้าง ผู้ที่นั่งบนคอช้างคอยทำหน้าที่ควบคุมออกคำสั่งช้าง และ 4.ตำแหน่งท้ายช้าง เป็นผู้ช่วยระวังด้านหลังช้าง และช่วยลำเลียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นบนหลังช้าง
ขณะที่สุนัขนั้นมีประสาทการรับรู้กลิ่นได้ดีและสามารถเข้าถึงพื้นที่แคบได้เร็วกว่ามนุษย์ เมื่อพบผู้ประสบภัยสุนัขจะเห่าเพื่อส่งสัญญาณระบุถึงตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ จึงถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการร่วมกับทีมค้นหาเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆเช่น ตึกถล่ม แผ่นดินไหวดินโคลนถล่ม รวมทั้งการค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่กว้าง ยิ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ วสท. ยังได้รับมอบหมายให้ออกแบบพัฒนาโครงสร้างอุปกรณ์กู้ภัยและลำเลียงผู้ประสบภัยบนหลังช้างให้มีความเหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิศวกรรมศาสตร์ด้วย ซึ่งแต่เดิมจะใช้เป็นโครงสร้างที่ทำจากเหล็ก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายแก่ช้างได้ ทั้งนี้เพื่อให้การเคลื่อนย้ายอพยพผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด
นายสิทธิโชค เหลาโชติ ประธาน วสท. สาขาภาคตะวันตก กล่าวว่า การฝึกจัดขึ้นที่ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ประเทศเข้าร่วมการฝึก แบ่งเป็นฝ่ายทหารจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน และมาเลเซีย ส่วนฝ่ายพลเรือนจากเครือข่ายภาคี หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมจาก 28 หน่วยงาน นับว่าประสบผลสำเร็จด้วยดีจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ในการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี