วันที่ 17 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊ก “Earthy Wiroonphan” โพสต์ภาพมุมสูง โดยระบุว่า “เชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน มีผู้ว่า 3 คน มีรองผู้ว่าคนละ 4 รวม 12 คน มีนายก อบจ 3 คน รองนายก อบจ คนละ 6 รวม 18 คน มีนายกเทศมนตรี 3 คน รองนายกเทศมนตรี คนละ 4 รวม 12 คน เบ็ดเสร็จเรามีบุคคล ซึ่งเป็นผู้นำระดับหัวกะทิ 42 คน คอยวางแผนนโยบาย และบริหารจัดการ นี่ยังไม่รวมไปถึงหัวหน้าหน่วยงานระดับท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอ อบต เทศบาลตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม และหน่วยงานราชการสังกัดกรมกองต่างๆ ทหาร ตำรวจ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน ต่างๆที่จัดตั้งภายในจังหวัดและผู้ว่าราชการสามารถเชิญประชุมหารือวางแผนแก้ปัญหาด้วยกันได้ก่อนภัยจะมาไม่ได้บ่นแต่จะตั้งคำถามว่า "ท่านไม่สามารถแก้ปัญหาควันพิษและการเผาไหม้ต่างๆที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM.2.5 ได้แล้วจริงๆหรือ?"
ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมในทุกปี ก่อนพวกท่านเข้ามารับหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ "ท่านรู้ล่วงหน้ามาก่อนอยู่แล้วว่าช่วงใดที่ปัญหานี้จะเกิด ท่านวางแผนและบูรณาการร่วมกันเพื่อรองรับสถานการณ์ดีที่สุดแล้วใช่มั้ย?"
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อพวกเราทุกคนทุกครอบครัวมากน้อยแตกต่างกันออกไป "ประชาชนที่ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ ไม่มีหน้ากากป้องกัน ท่านรู้จำนวนหรือไม่และดำเนินการช่วยเหลือพวกเค้าหรือยัง นี่ยังไม่รวมถึงแขกบ้านแขกเมืองและนักท่องเที่ยวที่เอาชีวิตมาเสี่ยงในพื้นที่ของท่าน ท่านรับผิดชอบทั้งหมดไม่ไหวแล้วใช่มั้ย?"
แล้วต่อจากนี้ต่อไปท่านจะทำอย่างไรกับการจัดการเรื่องนี้? คำถามจากผู้น้อยตาดำๆถึงคนมีอำนาจและงบประมาณในมือที่น่ากังวลยิ่งไปกว่านั่นคือความศรัทธาและความเชื่อมั่นในระบบราชการที่ตกต่ำมาโดยตลอดจากคนรุ่นใหม่ซึ่งก็คือลูกหลานของเรา ท่านจะตอบคำถามพวกเค้าว่าอย่างไร ท่านจะเป็นตัวแบบประเภทไหนให้พวกเค้าได้จดจำ?
ด้วยความเคารพ ถ้าพวกท่านทำงานกันอย่างจริงจังและสอดประสาน ตัดเรื่องผลประโยชน์ใดๆก็ตามออกไปก่อน แต่คำนึงถึงความเป็นอยู่และสุขภาวะที่แท้จริงของประชาชนและลูกหลานในความดูแลของท่าน ผมว่าปัญหานี้ไม่น่าจะเกินความพยายามและความสามารถของพวกท่าน
ด้วยใจจริง ถ้าปัญหานี้มันแก้ไขไม่ได้แน่ๆทั้งระยะสั้นและระยะยาว รบกวนท่านแสดงสปิริตผู้นำ ด้วยการประกาศแจ้งให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน พวกเราจะได้หาทางรอดด้วยตัวเอง คนที่มีกำลังทรัพย์จะได้วางแผนเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ในช่วงเวลานี้ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้ไม่ต้องจองตั๋วมาแล้วเสียเวลาฟรีๆ บริษัทฯ ห้างร้านต่างๆ จะได้ปิดและพักการจ้างงาน ประชาชนจะได้กักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลบควันพิษอย่างถูกวิธี”
"ไม่ใช่ไม่เห็นใจ แต่ไม่เห็นผลงาน"