วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
‘เด็ดขาด-โปร่งใส-ไฮเทค’  สู้‘โควิด’แบบ‘จีน-ไต้หวัน’

‘เด็ดขาด-โปร่งใส-ไฮเทค’ สู้‘โควิด’แบบ‘จีน-ไต้หวัน’

วันอาทิตย์ ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
โควิด-19
  • Tweet

หลังจากครั้งก่อน (“โสมขาว-ซามูไร”เอาอยู่ สู้“โควิด”ได้แม้ไม่ปิดเมือง : หน้า 5นสพ.แนวหน้า ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 2 เม.ย. 2563) ได้นำเสนอเรื่องราวของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ในการรับมือวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยไม่ต้องปิดเมืองไปแล้ว วันนี้ยังคงอยู่กับงานเสวนา (แบบถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live) “จีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่นกับการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19” ดำเนินการโดย สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเปรียบเทียบ “จีน-ไต้หวัน” 2 ชาติ ที่มีวิถีทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

สุวรรณรัตน์ มีสมบูรณ์พูนสุข อาจารย์โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับประเทศจีนอันเป็นต้นตอการระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ่งที่ดำเนินการ 1.ระบุชนิดของเชื้อ ซึ่งจีนทำได้อย่างรวดเร็วเพียงหลักสัปดาห์ ต่างจากโรคติดต่อในอดีตอย่างโรคเอดส์ที่กว่าจะรู้จักเชื้อ HIV ต้องใช้เวลาเป็นปี หรือโรคซาร์ส (SARS) ต้องใช้เวลานานนับเดือน เป็นต้น 2.ประเมินความพร้อม เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ยาและเครื่องมืออื่นๆ ที่จำเป็น หากไม่พอต้องเร่งจัดหา อาทิ หน้ากากอนามัย ชุดตรวจคัดกรอง

3.บริหารความเสี่ยง ด้วยความที่จีนมีระบอบการปกครองแบบผู้นำมีอำนาจเบ็ดเสร็จ การสั่งการเป็นไปอย่างรวดเร็วและทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อแม้ เช่น สั่งปิดเมืองโดยอนุญาตให้แต่ละครัวเรือนส่งตัวแทน 1 คน ออกไปซื้อเสบียงอาหารและสิ่งของจำเป็นทุกๆ 2 วัน 4.นำเทคโนโลยีมาใช้ จีนมีความพร้อมทางเทคโนโลยีสูงมาก เช่น ก่อนรัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น พื้นที่แรกที่พบการระบาด ได้ให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง อาลีบาบา (Alibaba) ตรวจสอบสินค้าคงคลังไว้แล้วว่าเพียงพอหรือไม่

“ในเจ้อเจียงก็มีการทำคิวอาร์โค้ด (QR Code) ขึ้นมาแทนที่ผ่านด่านตรวจแล้วต้องให้คนกรอกข้อมูล มันอาจจะเสี่ยงจากการจับปากกา มีการสัมผัสอะไรอย่างนี้ มีการสอบถามก็ลดด้วยการใช้คิวอาร์โค้ด แอพพลิเคชั่นนี้มีข้อมูลอยู่แล้ว บุคคลท่านนี้ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เดินทางไปไหนมาบ้าง แล้วมีประวัติด้วยว่ามีไข้หรือมีความเจ็บป่วยอะไรมีข้อมูลอยู่ในระบบอยู่แล้ว ฉะนั้นพอเจอด่านตรวจแค่สแกนคิวอาร์โค้ดคือจบ แล้วก็จะมีโค้ดบอกว่าสีเขียว สีฟ้า สีเหลือง คืออันตรายมากน้อยแค่ไหน เจ้าหน้าที่ก็สามารถคัดกรองได้เลย” อาจารย์สุวรรณรัตน์ ยกตัวอย่าง

ในขณะที่ ไต้หวัน ซึ่งอยู่ใกล้กับจีนมาก “ข้อได้เปรียบของไต้หวันคือใช้ภาษาเดียวกับจีน (แผ่นดินใหญ่) ไม่จำเป็นต้องรอรับข้อมูลจากจีนแล้วมาผ่านการแปลแบบชาติอื่นๆ จึงรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว” เมื่อประกอบกับพรรคการเมืองต้นสังกัดของ ไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน มีนโยบายให้ไต้หวันเน้นพึ่งพาตนเองมากกว่าพึ่งพาจีน การออกนโยบายจึงทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจจีน

เมื่อมั่นใจว่าในจีนเกิดโรคระบาดขึ้นแน่นอนแล้วสิ่งที่รัฐบาลไต้หวันทำแทบไม่ได้ต่างจากจีน ทั้งการเตรียมความพร้อม ประเมินความเสี่ยงและนำเทคโนโลยีมาช่วยดำเนินการ เช่น หน้ากากอนามัยต้องผลิตให้เพียงพอกับความต้องการใช้งานในประเทศก่อน เหลือแล้วจึงค่อยส่งออก มีการทำแอพพลิเคชั่นระบุตำแหน่งร้านค้าที่มีหน้ากากอนามัยจำหน่าย จำกัดจำนวนการซื้อด้วยฐานข้อมูลประกันสังคม ทำให้ประชาชนไม่ต้องไปหาซื้อไกลบ้าน เมื่อลดการเดินทางได้ก็ลดการพบปะกับผู้คนอันเป็นปัจจัยการแพร่เชื้อไปโดยปริยาย

“จำนวนประชากรไต้หวัน 24 ล้านคน ถ้าเทียบกับประชากรจีนจะต่างกันมาก แล้วก็เนื่องจากสังคมของเขา การเดินทาง ระเบียบวินัยจะได้รับอิทธิพลจากญี่ปุ่นมาค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นการซื้อของจะมีการต่อแถวค่อนข้างเป็นระเบียบอยู่แล้วระดับหนึ่ง โรคนี้จะคุมอยู่ต้องอาศัยความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย (รัฐ เอกชน ประชาชน) ประชาชนต้องศึกษาข้อมูลและค่อนข้างมีวินัยอยู่แล้ว” อาจารย์สุวรรณรัตน์ ระบุ

การตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งที่ส่งผลให้การควบคุมการระบาดของไต้หวันมีประสิทธิภาพคือ “ลดการเชื่อมต่อระหว่างไต้หวัน-จีน” อาทิ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไต้หวัน-อู่ฮั่น ตั้งแต่เริ่มมีข่าวโรคระบาด นอกจากนี้การที่ไต้หวันมีประสบการณ์ตรงในการระบาดของโรคซาร์ส (SARS)ไม่ต่างจากจีน ประชาชนจึงเตรียมพร้อมด้านการป้องกัน เช่น ใส่หน้ากากอนามัยอย่างคุ้นเคยเมื่อเทียบกับผู้คนในโลกตะวันตก อีกทั้งการที่ ไช่อิงเหวิน ชนะเลือกตั้งผู้นำไต้หวันด้วยคะแนนล้นหลาม หรือก็คือได้รับความนิยมจากประชาชน ดังนั้นประชาชนพร้อมให้ความร่วมมือ

อนึ่ง “ทั้งจีนและไต้หวันต่างเป็นชาติร่ำรวย”การบริหารจัดการจึงทำได้ง่าย เช่น หลังสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไต้หวันเริ่มควบคุมได้ รัฐบาลก็จัดงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ระหว่างยังมีมาตรการปิดประเทศจำกัดการเดินทางเข้าไปของชาวต่างชาติ ซึ่งเน้นช่วยผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ ร้านขายของชำหรือแผงลอยในตลาดนัดกลางคืน ขณะที่จีนสามารถทุ่มงบประมาณไปกับการรักษาได้เต็มที่ เช่น กว้านซื้อยาที่จำเป็นจากบริษัทของญี่ปุ่น หรือสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน

“ถ้าตั้งข้อสังเกตทั้ง 2 ประเทศ เวลาที่ท่านผู้นำประกาศกฎระเบียบ เขาไม่ได้ขอความร่วมมืออย่างเดียว เขามีแนบมาด้วยว่าถ้าท่านไม่ทำตามจะได้รับบทลงโทษรุนแรงแค่ไหน อย่างจีนตอนที่เกิดความวุ่นวายมากๆ ตอนอู่ฮั่น มีผู้ป่วยไปกระชากหน้ากากหมอออกมาแล้วถุยน้ำลายใส่หน้าหมอ บอกว่าถ้าฉันตายเธอต้องตายไปกับฉัน จีนออกมาประกาศกฎหมายเลย ถ้าใครทำแบบนี้มีโทษประหารชีวิตหรือติดคุกตลอดชีวิต

ขณะที่ไต้หวันมีกรณีไปประเทศที่สุ่มเสี่ยงมา แล้วกลับมาหลีกเลี่ยงไม่ยอมรายงาน ก็คือปรับ 3 แสนบาท คือไม่ใช่แค่ขอความร่วมมืออย่างเดียว เราต้องเข้าใจว่าคนมีการศึกษา มีพื้นฐานทางครอบครัว มีความเชื่อศาสนาแตกต่างกันใช้ชีวิตแตกต่างกัน ฉะนั้นสิ่งเดียวที่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างแน่นอน เพราะอันนี้เป็นเรื่องโรคระบาด มันซีเรียส ก็จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายในการบังคับด้วย”อาจารย์สุวรรณรัตน์ กล่าว

ท้ายที่สุดแล้ว “ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์จะตื่นตระหนก..เพราะทุกคนย่อมอยากมีชีวิตรอด” ภาพการกักตุนสิ่งของจำเป็นในยามวิกฤติจึงเกิดขึ้นทั่วไปไม่ว่าที่ใดในโลกดังนั้นสิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ “บทบาทของรัฐในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน” ให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจะได้ไม่ตื่นตระหนก ทั้งนี้ “บทเรียนบางเรื่องของไต้หวันสามารถนำมาปรับใช้ได้แม้ในประเทศที่ไม่ร่ำรวย” เช่น การกระจายหน้ากากอนามัย การทำแอพพลิเคชั่นแบบที่ไต้หวันทำนั้นไม่ยากเกินความสามารถของคนไทย

ขึ้นอยู่กับรัฐด้วยว่าจะยอมให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสตั้งแต่ออกจากโรงงานไปจนถึงวางจำหน่ายตามร้านค้าหรือเปล่า?

SCOOP@NAEWNA.COM
 

  • Tweet

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘4 ภาค-กทม.’อุณหภูมิสูงขึ้น ฝุ่น-หมอกควันยังมาก

'บิ๊กแป๊ะ'เปิดใจ! ทำไมต้องลุยเอง คดีกราดยิงโคราช ทั้งๆที่นั่งสั่งการก็ได้ (คลิป)

ยืนยันแล้วเป็น'ทองคำแท้ๆ' ครูหนุ่มร่อนเจอในคลองชลประทานดอนตะโก

'ทรัมป์'จบไม่สวย! วุฒิสภาสหรัฐฯเริ่มไต่สวนความผิดถอดถอน 8 กุมภาฯนี้

'พระธรรมมังคลาจารย์'เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ มรณภาพ สิริอายุ 94 ปี

สื่อนอกตีข่าว‘เปลี่ยนขยะประมงเป็นของใช้ยุคโควิด’ โครงการดีๆลดมลพิษทางทะเลที่เมืองไทย

  • Breaking News
07:00 น. ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ ระหว่างวันที่ 24 ถึง 30 มกราคม พ.ศ. 2564
06:38 น. ‘4 ภาค-กทม.’อุณหภูมิสูงขึ้น ฝุ่น-หมอกควันยังมาก
06:00 น. ส่งฉก.คุมPM2.5 ‘บิ๊กป้อม’ฟิตสั่งลุยทุกพื้นที่ ห้ามเผากลางแจ้ง/ขู่จับกุม
06:00 น. ศบค.ถกเตรียมปลดล็อกโควิด ช่วย5จว.สีแดง เดินทางข้ามเขต/เปิดตลาดกุ้ง
06:00 น. ‘จุรินทร์’ลุยภาคเหนือ ช่วยชาวไร่กระเทียม
ดูทั้งหมด
  • Breaking News
07:00 น. ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ ระหว่างวันที่ 24 ถึง 30 มกราคม พ.ศ. 2564
06:38 น. ‘4 ภาค-กทม.’อุณหภูมิสูงขึ้น ฝุ่น-หมอกควันยังมาก
06:00 น. ส่งฉก.คุมPM2.5 ‘บิ๊กป้อม’ฟิตสั่งลุยทุกพื้นที่ ห้ามเผากลางแจ้ง/ขู่จับกุม
06:00 น. ศบค.ถกเตรียมปลดล็อกโควิด ช่วย5จว.สีแดง เดินทางข้ามเขต/เปิดตลาดกุ้ง
06:00 น. ‘จุรินทร์’ลุยภาคเหนือ ช่วยชาวไร่กระเทียม
ดูทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

\'แม่นกน้อย\' แจงดราม่าถล่มมีทรัพย์สินเป็นร้อยล้านแต่ยังเปิดรับบริจาค

'แม่นกน้อย' แจงดราม่าถล่มมีทรัพย์สินเป็นร้อยล้านแต่ยังเปิดรับบริจาค

19 ม.ค. 2564

โซเซียลเสียงแตก "แม่นกน้อย อุไรพร" ราชินีหมอลำชื่อดังหลังเจอวิกฤติโควิดรอบ 2 ต้องยกเลิกงานไลฟ์สดจะขายบ้าน 70 ล้านหวังพยุงวงเสียงอีสานและรัก

คุมโรค-สิทธิฯ  ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

คุมโรค-สิทธิฯ ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

13 ม.ค. 2564

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพที่มีการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ด้านเศรษฐกิจที่กิจการต่างๆ ถูกรัฐใช้

โควิดรอบ2ฉุดบินในประเทศลดฮวบ ท่องเที่ยวดิ้นสู้หวังใช้‘รร.-สนามกอล์ฟ’กักตัวนักเดินทาง

โควิดรอบ2ฉุดบินในประเทศลดฮวบ ท่องเที่ยวดิ้นสู้หวังใช้‘รร.-สนามกอล์ฟ’กักตัวนักเดินทาง

11 ม.ค. 2564

11 ม.ค. 2564 สื่อต่างชาติ 2 สำนักจับตาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 โดยสำนักข่าว Vie

สู้จึงจะชนะ! ช้างกว่า 40 เชือกตกงาน รวมตัวกันสร้างรายได้เลี้ยงชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด

สู้จึงจะชนะ! ช้างกว่า 40 เชือกตกงาน รวมตัวกันสร้างรายได้เลี้ยงชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด

9 ม.ค. 2564

วันนี้ (9 ม.ค.64)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้มีช้างตกงานที่มาจากพื้นที่ต่างๆ จำนวน 40 กว่าเชือก นางสาวบุญรัตน์ ศาลางาม อายุ 40 บ้านเลขที่ 207 ม.9 บ้านตากลาง

\'หมอจุฬาฯ\'ชี้เปรี้ยง เมื่อรัฐบาลไม่ล็อคดาวน์เด็ดขาด มาลองดูว่าจะเป็นเช่นไร?

'หมอจุฬาฯ'ชี้เปรี้ยง เมื่อรัฐบาลไม่ล็อคดาวน์เด็ดขาด มาลองดูว่าจะเป็นเช่นไร?

30 ธ.ค. 2563

30 ธ.ค.63 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โพสต์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ล

ขายช้าง 7 เชือกหลังนักท่องเที่ยวไม่มาทำรายได้หดช่วงโควิด-19

ขายช้าง 7 เชือกหลังนักท่องเที่ยวไม่มาทำรายได้หดช่วงโควิด-19

21 ก.ค. 2563

มูลนิธิอนุรักษ์ช้าง และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับภาคประชาชนช่วยกันระดมทุนซื้อช้าง 7 เชือกจากช้างเผือกฟาร์มดำเนินสะดวก หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นักท่องเท

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

17 ก.ค. 2563

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

‘โควิด-ASF’ป่วนอุตสาหกรรมหมูโลก ถึงเวลาหมูไทยผงาด

‘โควิด-ASF’ป่วนอุตสาหกรรมหมูโลก ถึงเวลาหมูไทยผงาด

29 มิ.ย. 2563

ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 หลายประเทศมีสัญญาณการระบาดระลอกที่ 2 ทั้งในสหรัฐ ยุโรป จีนและเกาหลีใต้ ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ของผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved