เปิดเบื้องลึกทำไม‘พล.ต.โกศล ชูใจ’ไม่กักคนไทย ในวันที่‘สุวรรณภูมิ’จลาจล
5 เมษายน 2563 มีรายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ว่า จากที่เกิดเหตุการณ์คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ไม่ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าสู่มาตรการการกักตัว เป็นเหตุให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำของวันที่ 3 เมษายน 2563 จนเป็นเหตุให้ พล.ต.โกศล ชูใจ ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ต้องออกมาช่วยเจรจาและยอมปล่อยให้คนไทย 152 คนกลับบ้านไปก่อน ไม่ต้องกักกันตัวเพื่อความสงบ จนเป็นเหตุให้ถูกกระแสวิจารณ์อย่างหนักนั้น
ล่าสุด พล.ต.โกศล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากการที่ผู้โดยสารดังกล่าวใช้เวลารอขั้นตอนในการตรวจโรค และรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบที่จะตัดสินใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่พร้อมจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้โดยสารที่รออยู่ได้ จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เป็นเหตุให้ผู้โดยสารไม่ยอมรับการกักตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเรียกร้องให้มีผู้ใหญ่มาเจรจา ซึ่งในระหว่างนั้นตนได้มาปฏิบัติหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะได้รับมอบหมายจากกระทรวงกลาโหม ให้มาทำหน้าที่ประสานงานเกี่ยวกับเรื่องการจัดการยานพาหนะ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับส่งผู้โดยสารที่กลับจากต่างประเทศไปกักกันตัวอยู่พอดี
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว พล.ต.โกศล ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับข้องในเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่เมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเจรจากับผู้โดยสารที่แสดงความไม่พอใจ ก่นด่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพราะเห็นว่า พล.ต.โกศล เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น แต่เมื่อ พล.ต.โกศล พยายามเจรจาชี้แจงด้วยข้อกฎหมายและเหตุผลต่างๆแล้ว ผู้โดยสารทั้งหมดไม่ยอมรับฟัง พล.ต.โกศล จึงได้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ จนในที่สุดได้รับคำสั่งจากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข หรือศูนย์ EOC สธ. ว่าให้ปล่อยตัวผู้โดยสารกลับบ้านไปก่อน เพราะหากมีการยื้อกันต่อไปจะเกิดความวุ่นวายและอาจลุกลามจนกลายเป็นการจลาจลได้
พล.ต.โกศล จึงได้ตัดสินใจปล่อยตัวผู้โดยสารดังกล่าวกลับบ้านไปก่อน ตามคำสั่งของ EOC สธ. แล้วจึงค่อยติดตามกลับมารายงายตัวในภายหลัง จนทำให้ถูกกระแสสังคมโจมตีว่าทำไมตัดสินใจปล่อยกลับบ้านโดยพลการ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พล.ต.โกศล ได้มีการปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาในครั้งนี้กับ EOC สธ.มาโดยตลอด และการปล่อยตัวผู้โดยสารดังกล่าว ก็เป็นไปตามคำสั่งของ EOC สธ. มิได้เป็นการตัดสินใจเองโดยพลการของ พล.ต.โกศล แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งเรียกตัว พล.ต.โกศล กลับกระทรวงกลาโหม โดยไม่ต้องมาช่วยงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าใช้อำนาจหน้าที่เกินไปหรือไม่ ดังนั้น พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส.ในฐานะหัวหน้า ศปม.จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร เข้ากำกับดูแลการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center หรือ EOC) ทั้งที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว พร้อมทั้งทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ผ่านการคัดกรองและจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคตามมาตรการของรัฐที่กำหนด (State Quarantine) เพื่อนำเข้าพื้นที่ควบคุมโรคต่อไป
นอกจากนี้ มอบหมายให้ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามตัว ผู้โดยสารที่เดินทางกลับประเทศไทยและไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการ State Quarantine กลับมาตรวจสอบอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี