"...ต้องภาวนากำหนดใจให้ได้ด้วยความพากเพียร จึงจะไม่หลงภาวนา กำหนดใจ ถ้ากำหนดใจได้แล้ว มันจึงรู้พุทโธ เป็นมรรคของใจ ถ้าภาวนากำหนดจิตยังไม่ได้ มันก็แพ้กิเลส กิเลสมันอยู่ก่อนต้องมีสติรักษาใจจึงจะดี ถ้าไม่มีสติ จิตก็จะไปเกาะเกี่ยวอันนั้นอันนี้ทั่วไป พาให้หลงไป เวลาหลงไป เช่น หลงอะไรก็ให้ยกอันนั้นขึ้นสู่การพิจารณา ตัวอย่างกาย ให้เพ่งแยกส่วนของกายออก แต่ละส่วนเต็มไปด้วยของไม่สะอาด ไหลเข้าไหลออกตลอดอยู่ทุกขณะการที่พิจารณาแยกแยะจนเห็นเป็นของไม่งาม ไม่ใช่ของง่ายในเมื่อจิตยังแส่ส่ายหาอารมณ์อยู่ต้องอาศัยความพากเพียรอดทน เมื่อจิตมีกำลังมันจึงสงบถ้ามัวเกียจคร้านอยู่ จิตมันก็ไม่เป็นไป
ตัวขี้เกียจนี่แหละเป็นตัวทำให้เสีย เป็นตัวกิเลส เวลานั่ง ประเดี๋ยวหาว ประเดี๋ยวหาว พวกนี้เป็นกิเลสทั้งนั้นแหละ ถ้าพร้อมด้วยการกระทำจึงจะได้กำลัง ถ้าไม่พร้อมมันก็ไม่มีกำลัง
ร่างกายของเรานั้น ที่เราเห็นว่างาม ก็เพราะมีของไม่สะอาดเต็มท้องเต็มไส้อยู่ถ้าในท้องในไส้ไม่มีอะไรเลย ลองดูสิมันจะงามไหมถ้าของในท้องในไส้ไหลออกหมด มันก็เหี่ยวแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเท่านั้น ถ้าพูดกับความจริงแล้ว ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยของเสียทั้งหมดถึงอย่างนั้นก็ยังหลงไปว่าเป็นของสวยงาม แต่ใจมันไม่ว่าเต็มไปด้วยของไม่สะอาดหนา เราต้องภาวนาพิจารณากลับไปกลับมา ทบไปทวนมาอยู่นั้นแหละเราไปหลงของไม่งาม จับอันนั้นต่ออันนี้เลยเห็นว่างาม จนติดจนหลง
การภาวนา ถ้านอนภาวนา มันเป็นภาวนอนไปเสีย การฉันอาหาร ถ้าฉันมากเกินไปเวลาภาวนาก็นั่งหลับไปเสีย มันหลายเรื่องหลายราว ถ้าอะไรมันมากไป จิตมันไม่สงบ ห้ามมันไม่ฟัง อาหารมันทับ
ต้องพิจารณากามให้ดี ต้นเหตุเดียวที่เข้าไปอุดหู ตา ใจ จนทำให้เกิดความหลง
พวกเรานอนกันอยู่ในท้องของมารดาตั้ง ๙ เดือน ๑๐ เดือน จึงจะออกมาพ้น ร้องให้อุแว้ๆ ได้ ถ้าดีใจก็หัวเราะ เสียใจก็ร้องไห้
กามนี้เราเคยติดมาแล้วนับอเนกอนันต์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เร่งความเพียรจนรู้แจ้งเห็นจริง กามตัวเดียวที่ทำให้สัตว์ตาย กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา เอาเข้ากลายเป็นกามตันหน้า ภวตันตา วิภวตันใจ เมื่อกามเหล่านี้เข้าไปอุดไปตันหน้า ตา ใจแล้ว ก็เกิดความหลง ความรัก ความชัง ความพอใจก็เพราะกาม ความไม่พอใจก็เพราะกาม มันเกิดขึ้นกับใจ
ตา เป็นเหตุ หู เป็นเหตุ จมูก เป็นเหตุ เป็นเหตุแห่งความรักความชังตา เป็นเหตุ เมื่อได้เห็นรูปสวย รูปงาม รูปอัปลักษณ์ น่าเกลียดน่าชังหู เป็นเหตุ ได้ยินเสียงการประโคมขับร้องอันไพเราะ หรือเสียงน่ารำคาญ จมูกและใจก็เหมือนกันถ้าดีเป็นน่ารัก มันก็ติดก็หลงถ้าตรงกันข้าม มันก็เกลียดก็ชัง จึงว่ามันเป็นเหตุ
การฆ่ากันก็เพราะกาม รักกันก็เพราะกามทั่วอากาศ ทั่วพื้นน้ำและบนบกเต็มไปด้วยกาม กามตัณหน้า ภวตัณหู วิภวตันใจ ถ้าจะขยายออกไป มันก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกกามเพราะความพอใจและไม่พอใจก็เกิดจากกามทั้งสิ้น
พิจารณาให้ดีๆ เป็นอย่างไรมันจึงหลงไป จนกลายเป็นบ๋อยรับใช้ไป
..........................................
ข้อมูลจาก "ลานธรรมจักร" http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=58591
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี