เคอร์ฟิว-โควิดกะซวก‘หมกฮวก’จุก กัดฟันสู้ ปรับแพ็คเกจใหม่‘ฮวกแช่แข็ง’
17 เมษายน 2563 จากผลกระทบการเกิดโรคโควิด-19 ระบาด จนกระทั่งจังหวัดนครพนม มีมาตรการในการควบคุมป้องกัน ทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรอง รวมถึงการประกาศใช้คำสั่งเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.-04.00 น. ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนเท่านั้น สิ่งสำคัญในการขนส่งสินค้า ก็พลอยได้รับผลกระทบหนักต่อการดำรงอาชีพของผู้ประกอบการ รวมถึง เกษตรกรในพื้นที่
ดังตัวอย่างเช่น เกษตรกรบ้าน ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งถือเป็นพื้นที่แห่งเดียวของอีสาน ที่มีการรวมกลุ่มประกอบอาชีพทำนากบ เลี้ยงกบขายลูกอ๊อด หรืออีสานเรียกว่า “ลูกฮวก” ส่งออกขายในช่วงฤดูแล้งทุกปี สร้างรายได้หมุนเวียนปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ถือเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่สร้างรายได้เงินสะพัดทุกปี เพราะเป็น “เมนูเด็ดอีสาน” ที่เป็นที่ต้องการของตลาด มีราคาซื้อขายสูง ตกกิโลกรัมละ 150 -200 บาท เป็นที่นิยมนำไปปรุงเป็นเมนูเด็ดอีสาน อาทิ หมกฮวก แกงอ่อมฮวก ทุกปีเกษตรกรจะสามารถขายได้ ทั้งพันธุ์กบ รวมถึงลูกอ๊อด
ขั้นตอนเพาะพันธุ์เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ เกษตรกรจะเริ่มปรับพื้นที่นาเป็นบ่อเลี้ยงกบ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน หลังนำพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ลงไปผสมในบ่อ และวางไข่ ฟักตัว เป็นฮวกหรือลุกอ๊อด ก่อนที่จะนำไปขายป้อนตลาด ตกปีละไม่ต่ำกว่า 200 ตัน
สำหรับปีนี้หลังเกิดโรคโควิดระบาด ช่วงฤดูกาลทำเงินจึงส่งผลกระทบหนัก รายได้ลดเกินครึ่ง เพราะส่งขายยาก ตลาดปิด รวมถึงการขนส่งลำบากใช้เวลามาก เสี่ยงต่อความเสียหาย ลูกฮวกตาย เน่าเสียก่อนนำส่งขาย ทำให้เกษตรกร เริ่มปรับกลยุทธ์การตลาด หันมาแปรรูปลูกฮวก ทำแพ็คเกจใหม่ด้วยการบรรจุถุงแช่แข็ง ส่งขายถุงละประมาณครึ่งกิโลกรัม และ 1 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท เพื่อลดความเสียหาย และสู้ภัยโควิด โดยสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และใช้เวลาขนส่งได้หลายวัน สะดวกต่อลูกค้า ซื้อไปพร้อมปรุงเป็นเมนูเด็ดได้ทันที ถือเป็นการแปรรูป สร้างแพ็คเกจใหม่ บรรเทาความเดือดร้อน ผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ โทร.098-221-7904
นายสมชัย วงษ์สุข อายุ 60 ปี เกษตรบ้านหนองเเต้ ต.นาขาม อ.เรณูนคร เปิดเผยว่า ปกติกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่ ต.นาขาม ประมาณ 30 -40 คน จะรวมกลุ่มกันหลังเก็บเกี่ยวทำนาเสร็จ เป็นทำนากบช่วงฤดูแล้ง ปรับที่นาข้าวเป็นสถานที่เลี้ยงกบขายลูกอ๊อด หรือลูกฮวก โดยทำกันมาหลายสิบปี เพราะใช้เวลาสั้นเพียง 3-4 เดือน ก็มีรายได้ดี สร้างเงินหมุนเวียนปีละ 40 -50 ล้าน จนเป็นตลาดขายลูกฮวกที่ใหญ่สุดของอีสาน ส่งขายทั่ว
แต่มาปีนี้เจอพิษโควิดระบาด ลูกค้าลดฮวบไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ เพราะตลาดบางที่ปิด คนออกมาซื้อกับข้าวน้อยลง ที่สำคัญมีการประกาศเคอร์ฟิว และควบคุมการเดินทาง กระทบการขนส่งล่าช้า เพราะปกติจะขายลูกฮวกสดยังไม่ตาย บรรจุถึงใส่ออกซิเจนส่งขายกิโลกรัมละ 180 -200 บาท และมีรถพ่อค้ามารับซื้อไปขายต่อทั่วอีสานถึงภาคกลาง แต่จะต้องนำตัวสดไป เพราะลูกฮวกตายง่าย จะทำให้เน่าเสีย ต้องทำเวลาในการขนส่ง ทำให้รายได้ปีนี้ลดลงเกินครึ่ง
ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันหาทางบรรเทาความเดือดร้อน หันมาแปรรูปทำแพ็คเกจใหม่ บรรจุถุงแช่แข็ง เพราะสามารถเก็บไว้ได้นาน ขนส่งได้หลายวัน ไม่ต้องกลัวเน่าเสีย และสามารถนำไปปรุงเมนูได้ทันที เพราะทำความสะอาด เตรียมพร้อมก่อนบรรจุแพ็คเกจ ทำให้พอขายได้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ต้องลงทุนเครื่องแช่ เครื่องซีนถุงพลาสติกเพิ่ม แต่รายได้ลดลง ทำให้แบกต้นทุน ฝากรัฐบาล หน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือ เพราะตอนนี้เกษตรกร กำลังหาทางช่วยตนเอง หากได้ภาครัฐสนับสนุนอีกแรงจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ใครสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ ที่ โทร. 098-221-7904
ด้าน นายอาคม จันทะพันธ์ ประมงอำเภอเรณูนคร เปิดเผยว่าในส่วนของประมงฯ ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือชาวบ้านทั้งการเลี้ยง รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้านการตลาด ต้องยอมรับว่าปีนี้ ได้รับผลกระทบหนัก หลังเกิดโรคโควิดระบาด จึงได้วางแนวทางสนับสนุนช่วยเหลือ ทั้งการประสานงานเรื่องการขนส่งออกนอกพื้นที่ ไปจนถึง การ ให้ความรู้คำแนะนำเรื่อง การแปรรูป บรรจุแพ็คเกจรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถเก็บได้ นานขึ้นโดยการแช่แข็ง เชื่อว่าจะเป็นอีกวิธีการ ที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาด้านการตลาดของเกษตรกรได้ระดับหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี