วันที่ 17 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รายงานข้อมูสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 12.00 น.ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 0 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 18 ราย ให้กลับบ้านแล้ว 12 ราย และอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 ราย โดยที่โรงพยาบาลเกาะสมุย เป็นสถานที่ที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันยังมีผู้ป่วยที่รับการักษาอยู่ 5 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด
ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ที่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 4 ของเกาะสมุย ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า “ตอนแรกมีอาการแค่เจ็บคอ ปวดเบ้าตา จากนั้นเริ่มมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มึนหัว พอไปพบแพทย์ตรวจก็พบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาการป่วยของตนเองน่ากลัวมาก ทั้งอาเจียน เวียนหัว ท้องเสีย รับประทานอาหารก็ไม่ได้เพราะรู้สึกเหม็น และเวลาเดินไม่มีแรงต้องเกาะเสาน้ำเกลือ คิดในใจว่าจะตายหรือเปล่าเพราะตัวเองยังมีโรคเบาหวาน ความดัน ”
“แต่พอรู้ว่าตนเองมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ช้าไปแล้วเมื่อตนเองนำเชื้อไปติด สามี บุตรชาย อายุ 18 ปี และบุตรสาว อายุ 2 ปี ตนเองถึงกับร้องไห้โฮเลยเมื่อรู้ สงสารลูกคนเล็กที่สุด กลัวเพราะว่าตัวเองยังเป็นขนาดนี้ แล้วลูกจะทนได้ไหม แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นรู้สึกว่าตัวเองปกติเป็นวันที่ 3 แล้ว และขอขอบคุณโรงพยาบาลเกาะสมุย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ดูแลและรักษาอาการป่วยของตนเองและครอบครัวจนอาการดีขึ้นตามลำดับ จึงขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาสะมุย และทีมแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างจริงใจ"
นอกจากนี้ผู้ป่วยรายนี้ยังได้ฝากถึงผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อว่า ขอให้ปฏิบัติตามที่หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขอให้ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และปฏิบัติตามที่ทางหน่วยงานต่างๆ ให้ปฏิบัติ เพราะถ้าคุณไม่รักตัวเองก็ขอให้นึกถึงคนในครอบครัว คนรอบข้างด้วย เพราะถ้าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วจะรู้ว่ามันทรมารมากที่ต้องถูกกักตัวจนกว่าจะหายป่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวลูกสาวคนเล็กของผู้ป่วยรายนี้ที่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ร้องไห้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ผู้ป่วยหญิงรายนี้ยังกล่าวถึงความวิตกกังวลอีกว่า กำลังใจส่วนใหญ่จะได้จากแม่ ส่วนเพื่อนร่วมงานบางคนก็ทักมาพูดคุย บางคนก็ไม่ทักเข้ามาเลย ทำให้รู้ว่าเวลาป่วยจะทำให้รู้ว่าเราเหลือใคร ที่สำคัญหากได้อนุญาตให้กลับไปเก็บตัวที่บ้านอีก 14 วันหลังหายป่วยจากอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว จะสามารถไปเช่าบ้านอยู่ได้หรือไม่ หากเจ้าของบ้านเช่ารู้ว่าตนเองเคยเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ เพราะบ้านของตัวเองมีแม่อายุมากแล้วและลูกอีกสองที่ยังไม่ติดเชื้อจึงไม่อยากเดินทางไปเก็บตัวที่บ้าน เพราะว่าตัวเองมีลูกทั้งหมด 4 คน ตนเองเคลียดกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะกลัวว่าสังคมจะรังเกียจตัวเองหากรู้เรื่อง
ด้าน นพ.คำรพ เดชรัตนวิไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ดีพื้นที่เกาะสมุยไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เป็นเวลา 14 วันแล้ว สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดที่อยู่ที่โรงพยาบาลเกาะสมุยเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งหมด โดยติดจากผู้ป่วยรายที่ 4 ที่แพร่เชื้อไปติดรายที่ 5, 6 ที่เป็นบุตรชายอายุ 18 ปี กับบุตรสาวอายุ 2 ขวบ และเชื้อได้ไปติดสามี ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 7 ของเกาะสมุย ซึ่งขณะนี้แม่กับลูกชายและลูกสาว นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะสมุยได้รับยาครบ 14 วัน รอตรวจหาเชื้อไวรัสซ้ำอีกครั้ง ส่วนสามีรออีก 3 วันก็จะครบกำหนดและตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งเช่นกัน หากไม่พบเชื้อก็จะอนุญาตให้กลับบ้าน และกักตัวดูอาการอีก 14 วัน สำหรับเรื่องที่พักที่ผู้ป่วยเป็นกังวลตนเองได้รับเรื่องไว้แล้ว จะได้ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป
นพ.คำรพ กล่าวอีกว่า เรื่องของการป้องกันตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ การล้างมือ การสวมหน้ากาก การอยู่ห่างกัน 1-2 เมตร เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราจะไม่รู้ว่าผู้ที่ใกล้ชิดจะนำเชื้อนี้จะมาติดกับเราหรือไม่เราก็ไม่ทราบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี