นักอนุรักษ์กระบี่พบแหล่ง "ปลาตีน" อาศัยนับพันตัวแนวป่าโกงกางน้ำใสบ้านอ่าวน้ำ คาดช่วงวิกฤตโควิด-19 ไม่มีกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเลส่งผลให้ระบบนิเวศป่าชายเลนมีความสมบูรณ์มากขึ้น 

วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ฝูง "ปลาตีน" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปลาลาฉะ" จำนวนมากอาศัยตลอดแนวป่าโกงกาง ระยะทางกว่า 100 เมตรที่บริเวณป่าชายเลนน้ำใส บ้านอ่าวน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยฝูงปลาตีนดังกล่าวมีลักษณะแตกต่างกับปลาตีนที่อาศัยบริเวณป่าชายเลนริมเขื่อนปากน้ำหน้าเมืองกระบี่ ซึ่งพบว่าปลาตีนที่บ้านอ่าวน้ำจะมีลายจุดสีสันสวยสดงดงามน่าดูและสะดุดตา 

แต่ละตัวมีความยาว 5 - 10 เซนติเมตร (ซม.) ตามตัวไม่เปื้อนคราบโคลนหรือคราบน้ำมันเหมือนปลาตีนทั่วไป รวมกลุ่มกันนับพันตัวหากินริมป่าโกงกางใช้ครีบคู่หน้าคลานไปหา และไม่พบว่ามีการต่อสู้แย่งชิงอาณาเขตกันเลย บางตัวกระโดดไปมาอย่างสนุกสนาน ปีนขึ้นไปเกาะตามรากโกงกางดูเพลิดเพลินตา ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศวิทยาในบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ภายหลังที่เกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19   

นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะที่ได้เดินสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บริเวณแนวป่าโกงกางบ้านอ่าวน้ำ ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พบว่ามีฝูงปลาตีนอาศัยอยู่จำนวนมากแต่ที่แปลกคือ บริเวณดังกล่าวไม่มีโคลน มีน้ำใสทำให้มองเห็นสีสันของปลาตีนชัดเจน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้พบเห็นได้ยากจึงได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก สามารถเข้าใกล้ได้ โดยปลาตีนไม่มีท่าทีตื่นกลัวแต่อย่างใด 

โดยปกติแล้ว "ปลาตีน" หรือ "ปลาลาฉะ" พบส่วนใหญ่ เช่น ที่ป่าชายเลนริมเขื่อนหน้าเมืองกระบี่ จะอาศัยตามดินโคลนสีดำ ตัวเปื้อนโคลนมอมแมมและมักจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาณาเขต เข้าถ่ายภาพใกล้ๆ ไม่ได้มันจะหนีทันที แต่ปลาตีนที่บ้านอ่าวน้ำอยู่ในจุดที่น้ำที่มีน้ำใสไม่มีโคลนมองเห็นสีสันสวยงาม มีฟันคู่หน้า 2 ซี ตาโตกว่า

ที่สำคัญสามารถเข้าไปถ่ายภาพระยะใกล้ได้โดยที่มันไม่ตื่นกลัว คาดว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 ไม่มีกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเลส่งผลให้ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์มากขึ้น ทำให้ปลาตีนออกมาหากินจำนวนมาก และสามารถพัฒนาให้บริเวณเป็นแหล่งอนุรักษ์ปลาตีนสวยงาม และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ในอนาคต