ความคืบหน้าของอาการชาวบ้าน 4 คนที่หลงป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.จนกระทั่งหลายหน่วยงานได้ร่วมกันค้นหาและช่วยออกมาจากป่าได้เมื่อวันที่ 18 พ.ค.พร้อมกับส่งตัวชาวบ้านทั้ง 4 คนมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวังทอง ทันที ล่าสุดอาการปลอดภัยแพทย์อนุญาตให้ออกจาก รพ.ได้แล้ว ขณะที่หนึ่งในผู้หลงป่า เปิดเผยนอนกลางคืนฝันถึงชายร่างใหญ่ 3 คนมากักตัว จะไม่ยอมให้ออกไปจากป่า สุดท้ายได้บอกกล่าวจะแก้บนให้ จึงได้ยินและเห็นเฮลิคอปเตอร์บินวนมาทำช่วยเหลือได้
วันที่ 19 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของอาการชาวบ้าน 4 คนที่หลงป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตั้งแต่วันที 12 พ.ค.ที่ผ่านมาจนกระทั่งหลายหน่วยงานได้ร่วมกันค้นหาและช่วยออกมาจากป่าได้เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งตัวชาวบ้านทั้ง 4 คนมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวังทองทันทีโดยทั้ง 4 คนประกอบด้วยนายวิโรจน์ ชัยชนะ อายุ 45 ปี, นางแดง ชัยชนะ อายุ 45 ปี, นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ 46 ปีและเด็กชายปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี ชาวบ้านหมู่ 11 บ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ล่าสุดวันนี้แพทย์ได้ทำการรักษาและอนุญาตให้ทั้ง 4 คนออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
นายวิโรจน์ ชัยชนะ บอกว่า เมื่อคืนนี้กินได้นอนหลับโล่งอก รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ปกติตนมีอาชีพรับจ้างไม่ได้เข้าป่ามานานประมาณ 4 ปีแล้ว จนช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานอยู่บ้านเฉยๆ ภรรยาจึงชวนกันเข้าไปหาของป่าพวกลูกค้อ เห็ด หน่อไม้ พวกของป่าที่กินได้ ก็เลยชักชวนกันเข้าไป 4 คนกะว่าเย็นๆ จะกลับ
พอช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ค.ภรรยาโทรหาลูกสาวว่ากำลังจะกลับแล้ว ก็เดินไปเรื่อยก็แปลกใจว่าทำไมไม่เจอทางออกสักที จนประมาณ 4-5 โมงเย็นก็เริ่มมั่นใจว่าหลงป่าแน่ แฟนจึงโทรหาพี่ชายบอกว่าหลงป่าแล้วให้มาช่วยหน่อยจะรออยู่ตรงต้นค้อใหญ่มีป่าไผ่ แล้วคืนนั้นก็เตรียมที่นอนเอาใบไม้ใบตองมารองนอนกัน โชคดีที่มีไฟแช็คติดไปด้วยจึงใช้ก่อไฟ
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่มีใครมาช่วยจึงคุยกันว่าต้องหาทางออกจะไม่ยอมตายในป่าแน่นอน จึงตัดสินใจกันว่าต้องเดินเพราะถ้าอยู่บนเนินแบบนี้ไม่รอดแน่เพราะไม่มีน้ำดื่ม จึงเดินลงไปตีนเขาหาที่ๆ พอจะมีแอ่งน้ำ โชคดีที่คืนที่ 2-3 มีฝนตกจึงมีน้ำขังอาศัยตักน้ำมาต้มดื่มประทังชีวิต ใช้ใบตองใบไม้มาทำเป็นเพิงกันฝน
จากนั้นก็ออกหาเก็บผลไม้ป่าอย่างกระท้อน มะไฟ หยวกกล้วยมากินประทังชีวิตแล้วก็จับอึ่งอ่างมาย่างกิน พอเช้ามาก็เดิน เย็นมาก็นอน ไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยแล้วต้องช่วยตัวเองต้องเดินหาทางออกอย่างเดียว
กระทั่งวันที่ 17 พ.ค.ช่วงบ่ายภรรยาได้ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาว่าขอให้ทุกคนออกไปจากป่าให้ได้แล้วจะถวายหัวหมู ไก่ต้ม และเหล้า 1 ขวด พอสิ้นคำที่บอกกล่าวเจ้าป่า เจ้าเขา ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้ยินเสียง ฮ.บิน จึงรีบช่วยกันก่อไฟให้มีควันเยอะๆ จากนั้น ฮ.ก็เห็นบอกให้ส่งสัญญาณให้ถอดเสื้อโบก ตนก็ทำตาม ได้ยินเสียงบน ฮ.บอกว่าให้รอตรงนี้ ให้ก่อกองไฟใหญ่ๆ อย่าให้ไฟดับแล้วเราจะมาช่วยทุกคน วินาทีนั้นคือนั่งร้องไห้เลย ด้วยความดีใจ ว่าเรารอดแล้วจนกระทั่งช่วงเย็นๆ ก็มีทหารโรยตัวลงมาจาก ฮ.มาอยู่กับตน ตนยิ่งอุ่นใจว่าตนรอดตายแล้วจริงๆ
นายวิโรจน์ ได้บอกต่ออีกว่า ที่ผ่านมาเคยขึ้นไปกับภรรยาก็ไม่เคยหลงป่าสักครั้งเพราะภรรยาจะเป็นคนที่นี่จะรู้เส้นทางดี แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมยิ่งเดินยิ่งไกล หาทางออกไม่เจอ ก็เข็ดแล้วจากนี้ไปคงหันหลังให้ป่า ไม่กลับไปหาของป่าอีกแล้ว
นางแดง ชัยชนะ อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ตอนที่หลงป่าคืนแรกตนฝันว่ามีผู้ชาย 3 คนร่างใหญ่มายืนยิ้มให้ แต่ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่ก็ไม่ได้คุยอะไร จนคืนวันที่ 16 พ.ค. ช่วงค่อนแจ้งตนได้ฝันว่าตอนนั้นลงไปอาบน้ำ แล้วมีผู้ชายถอดเสื้อ 1 คนมาจับตัวเองไว้ในน้ำ บอกว่าจะไม่ให้ไป จับไว้นานแล้ว ลงทุนไปมากแล้ว ยังไงก็ไม่ให้ไปไหนแล้ว จากนั้นตนก็สะดุ้งตื่นเพราะตกใจจากนั้นก็ไม่กล้าหลับอีกเลย กลัวว่าถ้าหลับไปแล้วจะไม่ได้ตื่นอีก จนเช้าก็ได้ขึ้นเครื่องกลับบ้าน เมื่อคืนนอนโรงพยาบาลเป็นคืนแรก ก็หลับสบายดี มีกังวลบ้างเรื่องความฝันว่าผู้ชายคนนั้นที่มาจับตนเองในฝันเป็นใคร เขาต้องการอะไร ก็กะว่าหากกลับไปบ้านจะไปให้หมอดูแถวบ้านลองดูว่าฝันแบบนี้ต้องการอะไร
นางแดง กล่าวอีกว่า ปกติตนมีอาชีพทำงานก่อสร้าง ปีหนึ่งจะไปหาเห็ดหาลูกค้อสักครั้งหนึ่ง ส่วนแฟนไม่ใช่คนพื้นที่ปกติจะไปกลับตน วันนั้นก็เตรียมตัวกันจะเข้าไปหาของป่าพวกเห็ดมากิน ก็เลยชวนพี่สาวเข้าไปด้วยกัน พอดีหลานมาเห็นขอไปด้วยก็เลยอนุญาต พกข้าวกันไปคนละห่อ ก็ไม่คิดว่าจะหลงป่า
ด.ช.ปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 13 ปี เปิดเผยว่า ช่วงติดอยู่ในป่า กินมะไฟ ผัก อึ่งย่าง เป็นอาหาร คืนแรกก็นอนกับดิน นอนช่วงกลางคืน ไม่ได้กลัวผีหรือวิญญาณอะไร แต่กลัวมากที่สุดคือ สัตว์ป่า ที่อาจจะมาทำร้ายได้ ตอนนั้นคิดถึงแม่มากที่สุดแต่ก็พยายามหาทางออกจากป่า จนกระทั่งได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์มาตามหาตัวดังกล่าว จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนไม่กล้าไปป่าอีกแล้ว ส่วนหลังจากนี้หากร่างกายแข็งแรงดี ก็จะบวชแก้บน 14 วัน ที่วัดปากยาง ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ต่อไป
นายจักริน สมบูรณ์จันทร์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังทอง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผลจากการตรวจสุขภาพของทั้ง 4 ราย จากที่ตรวจดูอาการส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอะไรสัญญาณชีพทุกอย่างปกติดี จะมีในเรื่องเกลือแร่ผิดปกติในและโซเดียมต่ำบ้างในบางรายแต่ไม่มีอะไรน่าห่วง ตอนนี้ให้การรักษาดูแลตามอาการจนร่างกายเป็นปกติแล้ว เรื่องของการขาดสารอาหารไม่มีอะไรน่าห่วง รวมถึงมี 1 รายที่มีเรื่องโรคเรื้อรังติดตัวอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ ได้กินผลไม้ ประทังชีวิตจึงทำให้ร่างกายได้พลังงานมาบ้าง วันนี้ก็อนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี