ตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แนะนำให้ประชาชนชาวอำนาจเจริญ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติทำให้หลายคนปฏิบัติตามได้ผลดีมาก และหากไม่ทำอะไรเลยจะเกิดความเบื่อหน่ายจึงต้องมองหาอาชีพเสริมระหว่างรอฝนตกลงมา เพื่อทำนาปลูกข้าว ด้วยการปลูกดาวเรือง ปลูกพริกและปลูกยางพาราในการเสริมรายได้และประสบความสำเร็จเกินขาด เพราะตลาดรับซื้อไม่อั้น จึงต้องขยายพื้นที่ปลูกดาวเรือง ให้สามารถป้อนตลาดได้เต็มที่
นางอรทัย ถูระวร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 320 หมู่ที่ 3 บ้านนาอุดม ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวและปลูกดาวเรือง ได้ยึดปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่อง อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) กล่าวว่า ทำนาปลูกข้าวจำนวน 40 ไร่ กันไว้อีก 1 ไร่ ปลูกยางพาราที่เหลือปลูกดาวเรืองและปลูกพริก 1,000 ต้นและมะลิอีก 1,000 ต้น ส่วนน้ำใช้น้ำบาดาล ติดตั้งปั๊มน้ำ สูบขึ้นถังพักและปล่อยน้ำผ่านท่อพีวีซี
นางอรทัย กล่าวว่า ช่วงนี้เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าว อยู่ระหว่างจัดเตรียมพื้นที่ทำนาปลูกข้าว โดยการไถกลบดินที่นา หว่านปุ๋ย ปรับที่นา และมีหลายคน อาศัยช่วงที่ฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หว่านเมล็ดข้าวแล้ว เพื่อรอฝนตกลงมาอย่างเดียว ต้นข้าวก็จะสดชื้นฟื้นขึ้นมา ไม่แห้งตาย และนับจากนี้อีก 15 วัน ถ้าฝนไม่ตกลงมา จะทำให้ต้นข้าวที่หว่านรอฝน มีปัญหา อาจแห้งตาย และเสียเวลาหว่านเมล็ดข้าวอีกครั้ง คือนับหนึ่งใหม่
นางอรทัย กล่าวต่อว่า การทำนาสมัยพ่อแม่ มีขั้นตอนที่ยุ่งยากยาวนาน แต่แปลงนาสะอาดสวยงามไม่มีวัชพืชที่แปลงนา ผลผลิตได้เต็มที่ โดยเริ่มแรกหว่านกล้า ปักดำ เกี่ยวข้าว ฟาดข้าว นวดข้าว ตีข้าว และนำข้าวขึ้นใส่เล้า เป็นอันแล้วเสร็จ ซึ่งใช้แรงงานคนทั้งหมด ขายข้าว รับกำไรเต็มๆ ไม่ต้องเก็บเงินไว้ให้ค่าจ้างรถไถ รถเกี่ยวข้าว เป็นต้น
แต่ทุกวันนี้ต้องทำนาลัดขั้นตอนให้ทันฝน เพราะที่ผ่านมาฝนตกลงมาแล้วก็หายไปไม่ตกอีกเลย ทำให้ข้าวเสียหายตายหมด โดยลัดขั้นตอน คือปรับดินใส่ปุ๋ยในแปลงนา ฝนตกพอดินชุ่ม ก็จะหว่านเมล็ดข้าว ถ้าฝนตกเรื่อยๆ เมล็ดข้าวจะเจริญเติบโตงอกงาม แต่จะมีหญ้าขึ้นแซมต้นข้าวเต็มไปหมด แปลงนาไม่สะอาด จนถึงเก็บเกี่ยวข้าว จึงต้องใช้เครื่องจักรกลทุกขั้นตอน เริ่มจากไถนา เกี่ยวข้าง สีข้าว ผลที่ได้รับ ข้าวได้ไม่เต็มที่ เมล็ดไม่สวยงาม เพราะเลือกไม่ได้ เวลาขายข้าว หมดไปกับค่าจ้าง กำไรไม่มี พอมีข้าวกินปีชนปีเท่านั้น
นางอรทัย กล่าวต่ออีกว่า หากจะทำนาอย่างเดียว พอมีข้าวกิน ไม่ต้องพึ่งตลาด จึงต้องมีการปลูกยางพารา ปลูกดาวเรือง ปลูกมะลิและปลูกพริก เพื่อเสริมรายได้ ซึ่งดาวเรือง เกรด เอ จำหน่ายดอกละ 1 บาท ซึ่งจะส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้า ในตัวเมืองอำนาจเจริญทุกวันโดยส่งดาวเรืองคู่กับมะลิ เพื่อทำพวงมาลัยบูชาพระ และตลาดรับซื้อไม่อั้น โดยเฉพาะวันพระ หรือสำคัญทางศาสนา ดอกดาวเรืองและดอกมะลิ ขายดีมาก ขายดีจนขาดตลาด จึงต้องมีการขยายพื้นที่ปลูกดาวเรืองและมะลิเพิ่มอีกอย่างละ 1 ไร่ รวม 2 ไร่ เพื่อไม่ให้ดาวเรืองและมะลิขาดตลาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี