สุดเวทนา สาววัย 18 ปี ชาวกระสัง จ.บุรีรัมย์ ป่วยลมชักสมองพิการพัฒนาการเท่าเด็ก 2 ขวบ ฐานะยากจน พ่อทำงานต่างจังหวัดเจอพิษโควิด-19 ขาดรายได้ แม่อาศัยเบี้ยคนพิการและบัตรประชารัฐซื้อข้าวสาร นมกล่อง ต้มข้าวผสมนมใส่ขวดให้ลูกดูดกิน
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นางพร ร่วมสุข อายุ 56 ปี ชาวตำบลลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่า ลูกสาววัย 18 ปี ป่วยเป็นโรคลมชักตั้งแต่เด็ก ส่งผลให้สมองพิการและพัฒนาการช้า ปัจจุบันเท่ากับเด็ก 2 ขวบ ฐานะยากจน อาศัยเพียงเบี้ยคนพิการและเงินประชารัฐ ซื้อข้าวสารและนมกินประทังชีวิต ส่วนสามีที่ไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ขาดรายได้ไม่มีเงินส่งมาให้เกือบ 3 เดือนแล้ว
จากนั้น จึงได้เดินทางไปยังบ้านของผู้แจ้งพบนางพร กำลังนั่งดูแล น.ส.วิยะดา หรือ น้องนาง อายุ 18 ปี ลูกสาวที่พิการอยู่บริเวณเพิงหน้าบ้านอย่างใกล้ชิด จากการสอบถาม นางพร ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ลูกสาวป่วยเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่อายุ 5 เดือน จนถึงปัจจุบัน ไปหาหมอและกินยาตลอดแต่ก็ไม่หาย เพียงบรรเทาเท่านั้น จนทำให้สมองพิการมีพัฒนาการเท่ากับเด็กอายุ 2 ขวบ และทุกวันนี้ยังมีอาการลมชักอยู่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนไม่สามารถไปทำงานนอกบ้านได้ต้องคอยดูแลตลอด เพราะลูกสาวจะปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่รู้ตัว ตนต้องคอยตามเช็ดทำความสะอาดให้ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นลูกสาวจะไม่ยอมกินข้าวเหมือนกับคนทั่วไป จะติดดูดขวดนมเหมือนเด็ก ตนจึงใช้วิธีต้มข้าวผสมกับนมกล่องใส่ขวดนมเจาะรูให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ เพื่อเวลาที่ลูกดูดกินนมก็จะได้กินข้าวต้มไปด้วย
ที่ผ่านมา จะอาศัยเงินที่สามีไปทำงานรับจ้างขับรถที่ จ.ชลบุรี ส่งมาให้เดือนละ 2-3 พันบาท แต่หลังจากเจอสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ขาดรายได้ ไม่มีเงินส่งมาให้เกือบ 3 เดือนแล้ว ทุกวันนี้อาศัยเงินจากเบี้ยคนพิการของลูกสาว เดือนละ 800 บาท และบัตรประชารัฐ ซื้อข้าวสาร และนมกล่องจากร้านค้าใกล้บ้านเลี้ยงดูลูกสาวและปากท้องตัวเองด้วย บางครั้งไม่เพียงพอจะหยิบยืมญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาซื้อกิน เพราะไม่รู้จะหารายได้จากไหน เพราะหากไปทำงานก็ต้องปล่อยลูกทิ้งไว้คนเดียว
นางพร ยังบอกอีกว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดและสวดมนต์ภาวนาขอพรทุกคืน คือขออย่าให้ตนเองเป็นอะไรไปก่อนลูกสาว หากเลือกได้ขอให้ลูกสาวไปก่อน เพราะกลัวว่าหากตนเป็นอะไรไปจะไม่มีใครดูแลลูกสาว
ด้านนางพงษ์ แก้ววิเศษ อายุ 72 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า เห็นชีวิตของสองแม่ลูกแล้วก็สงสาร โดยเฉพาะเวลาที่ลูกสาวอาการชักกำเริบจะเป็นโดยไม่รู้ตัว หากช่วยไม่ทันก็เสี่ยงอันตรายศีรษะอาจฟาดพื้นได้ เพราะเท่าที่เคยเห็นเวลาลมชักจะชักแรงมาก และเวลาที่อยากกินนมจะส่งเสียงร้องดังเหมือนกับเด็กๆ ดังนั้น แม่จึงต้องคอยดูแลลูกตลอด ส่วนผู้เป็นสามีไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด เมื่อก่อนจะส่งเงินมาให้ แต่หลังจากเจอพิษโควิด-19 ก็ไม่ได้ส่งเงินมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ทำให้ทั้งสองต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากตามลำพัง ทางญาติและเพื่อนบ้านก็แบ่งปันข้าวอาหารให้บ้างตามกำลังที่มี อยากจะวิงวอนให้ผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือสองแม่ลูกด้วย
หากผู้ใครต้องการจะช่วยเหลือสามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี นางพร ร่วมสุข ธนาคารกรุงไทย สาขากระสัง บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 324-0-15697-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี