โชเฟอร์สาวใหญ่วัย 55 ปี ขับรถตู้โดยสารสายเอเชียเส้นทางสงขลา-พัทลุงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากพิษโควิด 19 ทำให้รถต้องหยุดวิ่งรับส่งผู้โดยสารออกนอกตัวจังหวัด จึงปรับเปลี่ยนวิธีสร้างรายได้ใช้รับฝากสิ่งของแทนการรับผู้โดยสารระหว่างเส้นทางสงขลา-พัทลุง เผยที่ผ่านมาทำมาแล้ว 2-3 สัปดาห์ มีลูกค้าที่ทราบข่าวมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
นางสุพรรณี บุญตั๊ง โชเฟอร์สาวใหญ่วัย 55 ปี ขับรถตู้โดยสาร สายเอเชียเส้นทางสงขลา-พัทลุง พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากพิษโควิด 19 ได้นำรถตู้โดยสารสายสงขลา- พัทลุงมาจอดใต้ร่มไม้ตรงข้ามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นที่สะดุดตาของรถที่ผ่านไปผ่านมาสามารถมองเห็นข้อความด้านข้างรถที่เป็นป้ายไวนิล สีดำ เขียนตัวสีแดง ล้อมสีขาวเป็นจุดเด่นชัดเจน โดยมีข้อความ "รับฝากของ" ตัวโตๆ สงขลา-พัทลุง แถมมีเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์สำหรับให้ลูกค้าติดต่อ ได้สะดวกจุดเด่นอยู่คันเดียว
เมื่อผู้ที่ขับรถผ่านเส้นทางนี้เห็นป้ายติดอยู่ข้างรถตู้โดยสารที่จอดอยู่และเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์สำหรับติดต่อก็จะได้เรียกใช้บริการ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับให้ลูกค้านำสิ่งของมาฝากส่งไปจังหวัดพัทลุงได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่รถต้องหยุดวิ่งมาเป็นแรมเดือน ดีกว่าให้รถจอดอยู่ที่บ้านเฉยๆโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ในแต่ละวันมีรายได้จากการรับฝากของ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ หลังหักค่าน้ำมันหักค่าฝากของแล้วยังพอมีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวได้อีกพอประทังชีวิตไปวันๆหนึ่ง
นางสุพรรณี บุญตั๊ง โชเฟอร์สาวใหญ่รายนี้ เปิดเผยอีกว่า ทุกวันในช่วงเวลา 10 โมงก็จะแวะไปฝากท้องมื้อเที่ยวที่โรงทานวัดไทรงาม เพื่อไปรับข้าวกล่องอย่างดีมารับประทานทุกวันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากทางวัดเปิดโรงทานทำข้าวกล่องแจกจ่ายประชาชนในมื้อเที่ยงทุกวัน ยอมรับว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตจริงๆ ใช้วัดเป็นที่พึ่งทุกวันเป็นการประหยัดลดค่าใช้จ่าย อีกทางหนึ่งด้วย
นางสุพรรณี บุญตั๊ง กล่าวอีกว่า ตอนนี้รถตู้โดยสารถูกสั่งหยุดวิ่งชั่วคราว เนื่องจากท่านผู้ว่าสั่งการให้ ระงับรถสาธารณะที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารต่างจังหวัด งดวิ่งบริการชั่วคราว แต่เนื่องจาก รถคันนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถ และเลี้ยงดูครอบครัว ก็เลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ถอดเบาะหลังออกเสียครึ่งหนึ่ง เพื่อมานั่งรอรับของฝาก หลังจากที่หยุดวิ่งไปก็จะมีผู้โดยสารเดิมๆที่จะฝากของไปให้ลูก ให้ครอบครัวที่ใช้จ่ายกับข้าวหรือผลไม้ เมื่อนำของมาแล้วไม่มีรถที่จะไปส่งของ เราก็เลยใช้เวลาว่าง หลังจากที่เราหยุดรถมาคิดดูว่า ถ้าเราบริการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกโดยรับฝากของ สำหรับรายได้แต่ละวันบางวันก็มี บางวันก็ไม่มี แล้วก็นั่งเล่นบ้างอะไรบ้าง ถ้ามีสักชิ้นสองชิ้นก็จะพาไปฝากต่อที่ บขส.หาดใหญ่
แต่ถ้ามีประมาณ 4-5 ชิ้นก็จะขอหนังสือเส้นทางเพื่อนำสิ่งของไปส่งถึงพัทลุง แล้วก็ตีกลับรถเปล่าไม่มีผู้โดยสาร ทำแบบนี้มาประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้ว ดีกว่านั่งรออยู่กับบ้าน เครียด ก็เลยต้องหาโอกาสมาพบปะกับเพื่อนฝูงกับผู้ใช้บริการ เป็นการบรรเทาในวันนั้นๆ เมื่อหักค่าของฝาก ค่าน้ำมันแล้ว เหลือค่าใช้จ่ายในครัวเรือนนิดหน่อยและค่าข้าวในแต่ละวันเพื่อความอยู่รอด ในยุคโควิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี