'อช.หมู่เกาะเภตรา' ปักป้ายเตือน 'ริมหาดปากบารา' ระวังแมงกะพรุนมีพิษ

'อช.หมู่เกาะเภตรา' ปักป้ายเตือน 'ริมหาดปากบารา' ระวังแมงกะพรุนมีพิษ

วันพุธ ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 16.40 น.
Tag :

วันที่ 3 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เฟสบุ๊กส่วนตัวของ Kilttisa Ar-Lee โพสต์แจ้งเตือนผู้ปกครองทราบ หลังกรณีเกิดเหตุบุตรหลานไปเล่นน้ำบริเวณที่จุดชายหาดปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูลแล้วโดนแมงกะพรุนชนิดมีพิษเข้าที่ขาต้องเร่งส่งถึงหมอโรงพยาบาลอำเภอละงู โดยได้โพสต์เตือนเฝ้าระวัง

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบถามข้อมูลพบว่า เด็กที่ไปเล่นน้ำโดยมีผู้ปกครองพาไปเล่นบริเวณที่ชายหาดปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตานั้น ยังพบอีกว่ายังมีเด็กไปเล่นน้ำบริเวณอ่าวนุ่น ม.4 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราด้วยเช่นกัน เป็นแนวชายทะเลติดเชื่อมกันถึง 2 อุทยานฯ


ล่าสุดนายวิทยา บัวพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลังทราบข่าวจากโซเซียล จึงสั่งการให้ทางนายหมอดดี สำสู นักนันทนาการ สำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา  ลงพื้นที่ปักป้ายเตือนประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะการนำเด็ ๆ มาเล่นน้ำให้ระวังแมงกะพรุน   

 

 

นายวิทยา บัวพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กล่าวว่า สำหรับแมงกะพรุนมีพิษนั้นมีหลายชนิดในพื้นที่ชายหาดปากบาราและทะเลสตูลมีน้อยมากที่ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวจะโดนแมงกะพรุนจนได้รับบาดเจ็บ คงเกิดจากช่วงมรสุมน้ำขึ้นพัดพาแมงกะพรุนขึ้นมา เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแมงกะพรุนสายมาริมชายฝั่งและเป็นครั้งแรกในรอบปีที่มีโดนแมงกะพรุนสายได้รับบาดเจ็บ

สำหรับแมงกะพรุนสายมีลักษณะตัวกลมคล้ายถ้วยสีออกแดง มีหนวดยาวประมาณ 1.5 เมตร จะอาศัยอยู่น้ำลึกห่างจากฝั่งประมาณ 15-20 เมตรและจะเริ่มมีจำนวนมากตั้งแต่เดือน กรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี ซึ่งมีพิษสามารถทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้

อาการเฉพาะที่เมื่อถูกหรือสัมผัสกับสัตว์ที่มีพิษเหล่านี้จะรู้สึกเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน บริเวณที่ถูกจะมีสีแดงเข้ม บางครั้งเหมือนรอยไหม้ ประมาณ 20-30 นาทีจะบวมนูนขึ้นเป็นทางยาวตามผิวหนังต่อไปจะเกิดเป็น Vesicle เล็กๆ หรืออาจเป็น Bleb ใหญ่ และแตกเป็นแผลเรื้อรังกว่าจะหายกินเวลานานแม้ว่าตกสะเก็ดแล้วก็เกิดแผลใหม่อีก อาการที่เกิดขึ้นจะมีความรุนแรงแตกต่างกันไปสุดแล้วแต่ชนิดและอาการกระทบกระแทก ตลอดจนบาดแผลที่ได้รับว่าอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายและเนื้อที่มากน้อยเพียงใด พวกที่มีพิษน้อยก็จะรู้สึกคันๆ แสบร้อนเล็กน้อยแล้วก็หายไป บริเวณที่ถูกถ้าเป็นเนื้ออ่อน เช่น บริเวณขาอ่อน ตามซอกคอและหน้า อาการก็จะมาก

 

 

การปฐมพยาบาลให้ปฏิบัติดังนี้ 

1.) เมื่อถูกแมงกะพรุนในตอนแรก ให้ใช้ทรายที่หาดนั้นถูบนผิวหนังเบาๆ หรือผ้าเช็ดตัวเช็ด เพื่อขัดเอาน้ำเมือก ๆ จากตัวแมงกะพรุนบนผิวหนังออกล้างด้วยน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำจืด 

2.) ให้ใช้พวกด่างอ่อน ๆ เช่นน้ำแอมโมเนีย หรือแอมโมเนียหอม หรือน้ำยา โซดาไบคาบอเนต หรือน้ำปูนใสชุบปิดแผลนั้นไว้ หรือขยำต้นและใบผักบุ้งทะเลให้ได้วุ้นลื่นๆมาพอกแผล 

3.) หลังจากนั้นใช้พวก แอนติฮิสตามีนครีม หรือพวกคอร์ติโคสเตอรอยครีม (เช่น เพร็ดนิโซโลนครีม ฯลฯ) 

4.) ถ้ามีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวด เช่นแอสไพริน เอ.พี.ซี. นำส่งโรงพยาบาล เพราะอาจมีอาการร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย (ถ้ามีอาการมาก แพทย์อาจให้พวก 10% แคลเซียมกลูโคเนทเข้าเส้นช้า ๆ และยาอื่น ๆ ตามอาการ) การป้องกัน

พร้อมกันนี้ก็ยังได้ประสานงานไปยังพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เร่งติดป้ายเฝ้าระวังแมงกะพรุนแล้วเช่นกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top