วันหยุดสัปดาห์หลายคนกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจหลังทำงานเหนื่อยล้ามา และที่นี่ก็เป็นอีกแห่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก “อุทยานหินเขางู” หรือ “เมืองกุ้ยหลินเมืองไทย” ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติ ต่างเดินทางมาเก็บภาพบรรยากาศธรรมชาติ หลังปิดอุทยานหินเขางูนานกว่า 2 เดือนจากผลกระทบโควิด-19
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการการคัดครองเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ก่อนเข้า-ออก พื้นที่ โดยนักท่องเที่ยวต้องผ่านจุดคัดกรอง และรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยยืนตรวจวัดอุณหภูมินักท่องเที่ยวก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าภายในอุทยานหินเขางูได้ หากมาถึงอุทยานหินเขางูแล้ว พลาดไม่ได้ที่จะต้องเดินบนสะพานแขวน และบริเวณทางลาดกลางหุบเขา เพราะถือว่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเลยก็ว่าได้ และอีกจุดที่ได้รับความสนใจนั้นคือ การให้อาหารปลา เพราะจะมีปลาสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งปลาไทย ปลาเลี้ยง ที่ถูกนำมาปล่อยจนโตลำตัวขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีปลาคาร์ปสายพันธุ์ต่างๆ สีสวยสดงดงามขึ้นมาตอนรับนักท่องเที่ยวด้วย ส่งผลให้เหล่าผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหาร กาแฟสด และของฝาก ผู้ประกอบการร้านอาหาร ห้องพัก สามารถกลับมามีรายได้เช่นเดิมกับก่อนหน้าที่จะมีไวรัสโควิด-19 ระบาด คาดว่าต่อจากนี้ไปจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากมีการผ่อนคลายระยะที่ 4 และยกเลิกเคอร์ฟิว ในวันที่ 15 มิ.ย. นี้
นายศุรศักดิ์ หุบชบา รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศผ่อนปรนคลายล๊อกในระยะที่ 4 บรรดาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม อาทิ น้ำตกเก้าโจร ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 20 มิถุนายน แต่สำหรับพื้นที่นักทานอาหารเริ่มเปิดแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และอีก 1 ที่คือ อุทยานหินเขางู ที่เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมแล้ว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนแหล่งท่องเที่ยวตามชุมชนขณะนี้ก็เริ่มเปิดบริการแล้ว ทำให้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ที่พัก ร้านอาหาร เป็นไปอย่างคึกคัก ห้องพักมีการจองเข้ามาพักกันมากกว่า 70% บางแห่งเต็มไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวตามวัด และของเอกชน ได้มีการสร้างขึ้นใหม่และมีการเปิดตัวพร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวกันคึกคัก ชาวบ้านชาวชุมชนต่างมีอาชีพ มีรายได้กันมากขึ้น
สำหรับความเป็นมาของ “เขางู” ซึ่งชื่อนี้แม้จะบ่งบอกว่าเป็นขุนเขาที่มีงูอยู่เยอะ แต่นั้นเป็นเรื่องราวเล่าขานของอดีตเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มาวันนี้หลังเขางูผ่านยุคเหมืองหิน ก็ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพมหานคร กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองไทย บรรยากาศคล้ายกับไปเที่ยวที่เมืองกุ้นหลินของจีน ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมกันไม่ขาดสาย
นอกจากความสวยงาม และบรรยากาศที่น่าเดินเที่ยวชมแล้ว เขางูยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สมัยทวารวดีชั้นยอด และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ทางธรณีวิทยาชั้นเยี่ยมของเมืองไทย ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าท่ามกลางขุนเขาที่สูงตระหง่านสวยงามแห่งนี้ มีเรื่องราวเกี่ยวกับหินปูนและถ้ำซึ่งเกิดจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติที่น่าทึ่งไม่น้อย หลังจากมีการเลิกสัมปทานกิจการเหมืองหินไปเมื่อราวๆ 20-40 ปีที่ก่อน เขางูได้ถูกทิ้งให้กลายเป็นเหมืองหินร้าง มีสภาพเสื่อมโทรม และเกิดเป็นแหล่งมั่วสุม ทางจังหวัดราชบุรีจึงได้พัฒนาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเขางู เขตรับผิดชอบดูแลของเทศบาลตำบลเขางู ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี
ภายในอุทยานหินเขางูมีเส้นทางเดินชมวิวทิวทัศน์ของแนวภูเขาหิน สระน้ำในขุมเหมืองเก่า และที่เป็นไฮไลท์คือ สะพานแขวน เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติเลาะเลียบริมเขาที่สามารถเดินชมทัศนียภาพของภูเขาแบบใกล้ชิดไปจนถึงจุดศาลาชมวิวกลางหุบเขา ที่ชาวเซลฟี่ และ บรรดาช่างภาพต่างชื่นชอบ ส่วนในยามค่ำจะมีหิ่งห้อยให้ชมด้วย
สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังอุทยานหินเขางู จากตัวเมืองราชบุรีให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3087 (สายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง) เมื่อถึงสามแยกเขางูให้วิ่งตรงไปสู่ทางเข้าอุทยานหินเขางูได้เลย หรือจากตัวเมืองราชบุรีวิ่งไปตามตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3291 จากแยกเจดีย์หักไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 3087 เลี้ยวขวาไปทางถนนสาย 3089 ประมาณ 1 กม. จะถึงจุดหมาย คือ อุทยานหินเขางู หรือโทรสอบถามได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดราชบุรี โทร 032919176-8
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี