วันที่ 23 มิ.ย.63 เมื่อเวลา 10.00 น.นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบเส้นทาง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเศรษฐกิจฐานรากและจัดทำแผนที่ท่องเที่ยวมิติใหม่ สถานที่สำคัญแลนมาร์คแห่งใหม่ของอำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอำเภอโพธิ์ชัย ให้เป็นที่รู้จัก
โดยเริ่มต้นจากที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย เดินทางประมาณ 10 นาทีไปที่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ พญานาคคู่และสวนเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตำบลอัคคะคำ ของนางสุกัญญา แดนกาไสย ที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 13 ตำบลอัคคะคำ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งใช้งบประมาณส่วนตัวในการก่อสร้างพญานาคคู่ (สร้างจากพลังศรัทธาและความฝันว่ามีพญานาคมาขออยู่ด้วย) งบก่อสร้างพญานาคคู่ประมาณ 3 ล้านบาทและงบก่อสร้างสวนเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอีก 10 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 13 ล้านบาทให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของพี่น้องชาวอำเภอโพธิ์ชัยและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวชมและสักการะพญานาคคู่
ต่อด้วยเดินทางต่ออีก 5 นาทีไปชมสวนอินทผลัมถนนทางขึ้นภูแผงม้าและสวนอินทผลัมผลสด "สวนบ้านไร่ทรายแก้วอินทผลัม" โดยมีนางเกษร เยาวนิชเจ้าของสวน เบอร์ติดต่อ 0610595642 อยู่บ้าน 184 หมู่ 4 บ้านโคกใหญ่ ตำบลคำพอุง นำชมสวนที่ปลูกอินผลัม บนพื้นที่ 17 ไร่ พันธุ์ KL และพันธุ์บาฮีกว่า 200 ต้นจำหน่ายให้กับประชาชนที่สนใจและนักท่องเที่ยวราคากิโลกรัมละ 400-500 บาท ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของสวนกว่า 5 แสนบาทโดยบางต้นมีผลผลิตมากกว่า 20 ทลาย ทลายละ 10-20 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 500 บาท ดังนั้น อินทผลัมต้นเดียวจึงสามารถขายทำรายได้ให้เจ้าของสวนเกือบหนึ่งแสนบาท
ต่อจากนั้นเดินทางอีกประมาณ 3 นาทีไปที่วัดภูกุ้มข้าวสถานที่ค้นพบสุสานหอยโบราณอายุกว่า 130 ล้านปีและดนะดูกขาหน้าไดโนเสาร์กินพืชเพื่อให้กำลังใจ ดร.ศักดิ์บวร ตุ้มปี่สุวรรณและคณะนักวิจัย จากศูนย์วิจัยและศึกษาบรรพชีวิน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งกำลังวิจัยเก็บตัวอย่างหอยและกำลังคัดแยกหอยโบราณอายุกว่า 130 ล้านปีเพื่อจัดทำทะเบียนและแยกประเภทชนิดของหอย
โดย ดร.ศักดิ์บวร เปิดเผยว่า จากเดิมเบื้องต้นที่ค้นพบหอยเพียง 3 ชนิด แต่เมื่อเริ่มทำการศึกษาวิจัยคัดแยกและแยกประเภทของหอย พบประเภทของหอยเพิ่มเติมเป็น 8 ชนิดและคาดว่าจะพบอีกหลายชนิด ซึ่งฟอสซิลหอยโบราณที่ภูกุ้มข้าวตำบลคำพะอุงนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าสุสานหอยที่ใดในประเทศไทย ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญมาก โดยคณะนักวิจัยจะทำการขุดค้นและคัดแยกจำแนกประเภทของหอยเพื่อทำการศึกษาวิจัยตลอดทั้งปี 2563 นี้
ทั้งนี้ หากเดินทางต่อจากวัดภูกุ้มข้าว ไม่เกิน 5-10 นาที สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมความสวยงามของวัดและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ วัดถ้ำหินสอ ภูแผงม้า ผาหำหด ถ้ำภูมวย และถ้ำสินชัย ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงแม่เผด โดยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวของตำบลคำพอุงและตำบลอัคคะคำ สามารถเที่ยวชมและจบทริปภายในวันเดียว หรือ "วันเดียวเที่ยวครบ จบที่โพธิ์ชัย"
ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดขอเชิญประชาชนที่สนใจและนักท่องเที่ยว ชมงานงานเทศกาล "เที่ยว ชิม กิน อินทผลัมทุ่งกุลาครั้งที่ 2" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ก.ค.63 นี้เป็นต้นไป ณ "สวนทุ่งทองคำ อินทผลัมทุ่งกุลา" ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด และสามารถเที่ยวชมสวนอินทผลัมเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้ตลอดเดือนกรกฎาคม 2563 นี้ โดยอินทผาลัมผลสด พืชเศรษฐกิจใหม่ของจังหวัดร้อยเอ็ด สามารถสร้างรายได้ให้จังหวัดร้อยเอ็ด หลายร้อยล้านบาท ดังคำกล่าวที่นักท่องเที่ยว กล่าวถึงจังหวัดร้อยเอ็ดว่า "ดินแดนปลูกผลไม้ของพระเจ้า และพื้นที่ปลูกข้าวที่ดีที่สุดในโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี