พบบ้านร้างวิญญาณหลอนโผล่อีกหลังที่อ่างทอง เป็นบ้านหลังที่แม่ให้ลูกสาววัย 2 ขวบดื่มนมผสมยาพิษเสียชีวิตแล้วแขวนคอตายตามที่หน้าบันไดบ้าน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แต่วิญญาณยังไม่ไปเกิด ชาวบ้านเผยพบเห็นดวงไฟในบ้านร้างและวิญญาณสองแม่ลูกเดินจูงมือกันเดินรอบบ้านในช่วงเช้ามืด

วันที่ 24 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ้านร้างไม่มีเลขที่ตั้งอยู่ที่ซอยริมแม่น้ำ 2 หมู่ 6 ตำบลบางจักร อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ไต้ถุนสูง ตั้งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วลวดหนามล้อมรอบพื้นที่ดิน โดยที่บริเวณด้านหน้าบ้านมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ และมีต้นไม้นานาชนิดขึ้นปกคลุมไปทั่วบริเวณจนแทบมองไม่เห็นบ้าน 

หลังจากผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้ให้ลูกสาววัย 2 ขวบกินนมผสมยาพิษเสียชีวิตแล้วผู้เป็นแม่อายุ 30 ปีก็ได้แขวนคอตายตามที่บริเวณบันไดหน้าบ้าน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดเกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย ปล่อยให้รกร้างมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมไปหมด

ต่อมาได้มีผู้คนพบเห็นดวงไฟอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวและบางครั้งก็มีคนเห็นหญิงสาวสองแม่ลูกเดินจูงมือเดินไปมาบริเวณป่าโดยรอบตัวบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของสองแม่ลูกที่ยังไม่ได้ไปเกิดและยังสิงสถิตอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจนกลายเป็นเรื่องเล่าต่อกันมาว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านผีสิง

นางสาวสิริวงษ์ โคกพูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลบางจักร อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เล่าให้ฟังว่า ตนเคยพบเห็นดวงไฟเป็นแสงนิออนอยู่ภายในบ้านร้างหลังดังกล่าวมากับตัวเอง ในช่วงที่กลับเข้าบ้านในตอนดึกของคืนวันหนึ่ง ซึ่งทางเข้าบ้านของตนต้องขับรถยนต์ผ่านเส้นทางขนานไปกับบ้านที่แม่ให้ลูกดื่มนมผสมยาพิษตายและแม่ก็ผูกคอตาย โดยพบเห็นแสงสว่างอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ทั้งที่ปัจจุบันนั้นบ้านหลังไม่มีไฟฟ้า  

"ที่มองเห็นนั้นเป็นแสงไฟดวงเทียนอยู่บริเวณหน้าบ้านและที่ผ่านมายังมีลูกบ้านของตน พบเจอเห็นสองแม่ลูกเดินจูงมือกันอยู่ภายในรั้วรอบบ้านในตอนเช้ามืด ซึ่งผู้ที่พบเห็นนั้นเขาได้เดินออกมาใส่บาตรพระสงฆ์ โดยเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ได้ไม่นานได้มาถามตนว่าสองแม่ลูกนั้นเป็นใคร โดยไม่ทราบว่าสองแม่ลูกนั้นเสียชีวิตไปนานกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนั้นยังมีผู้ที่เชื่อเรื่องวิญญาณเข้ามาท้าลองเป็นประจำ และไม่อยากให้ใครเข้ามาลองของ ซึ่งตนอยากให้เคารพสถานที่ ร่วมกันอุทิศส่วนบุญและกุศลเพื่อที่ดวงวิญญาณของสองแม่ลูกจะได้ไปสู่สุขติตามภพภูมิต่อไป" นางสาวสิริวงษ์ กล่าว