นายปกครอง พูนเพิ่ม อายุ 61 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงแนวคิดในการทำการเกษตรผสมผสานว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่าราคาผลผลิตทางการเกษตรจำพวกปาล์มน้ำมัน และยางพารามีความผันผวน จึงมีแนวคิดที่จะหาพืชผักชนิดอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าจึงได้ทำการโค่นล้มสวนปาล์มน้ำมัน 4 ไร่จากที่มีอยู่ 9 ไร่ เพื่อทำการปลูกพืชปลอดสารพิษที่ตลาดมีความต้องการเป็นจำนวนมากและยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับตัวเองและให้กับผู้บริโภคให้ได้รับประทานสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ไม่มีสารพิษ
โดยพืชที่ทำการปลูกในแปลงนี้ได้แก่ กาหยีหรือมะม่วงหิมพานต์ ชะอม มะกรูด ต้นเพกา ผักหวานนกเขา ต้นจิกกินยอดและต้นมันปู ซึ่งพืชที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพืชประจำถิ่นในภาคใต้ที่ประชาชนนิยมบริโภค ขณะนี้ได้ปลูกมาแล้วประมาณ 6 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้แล้วและมีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี เพราะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในแต่ละวันจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่
สำหรับปัญหาอุปสรรคในการทำเกษตรแบบผสมผสานนี้จะมีพวกแมลงที่มารบกวน แต่ทางสวนแห่งนี้ไม่ได้ใช้สารเคมีในการปราบปรามศัตรูพืชแต่อย่างใดโดยใช้ระบบธรรมชาติกำจัดเช่นการปลูกตะไคร้ไล่เมลง เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคพืชที่ดีมีประโยชน์
นายสุเทพ หนูรุ่น เกษตรอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวถึงการเข้ามาส่งเสริมเกษตรกรปลูกผักแบบผสมผสานว่า เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ความต้องการในการอุปโภค บริโภคก็มีความต้องการที่สูงตามไปด้วย ปัจจุบันอาหารบางส่วนของจังหวัดกระบี่ต้องนำมาจากจังหวัดใกล้เคียง การผลิตภายในจังหวัดยังไม่เพียงพอจึงได้มีการส่งเสริมให้มีการปลูกพืชแบบผสมผสานเพื่อเป็นอีกทางเลือกในการสร้างรายได้นอกจากปาล์มน้ำมัน ยางพารา
ในส่วนของนายปกครอง ที่ตัดสินใจล้มสวนปาล์มน้ำมันที่มีอายุ 12 ปี จาก 9 ไร่ ล้มไป 4 ไร่ เหลืออยู่อีก 5 ไร่ เพื่อทำการปลูกพืชผักสวนครัวเป็นประเภทผักยืนต้นขณะนี้สามารถที่จะเก็บผลผลิตได้แล้วโดยพืชที่ปลูกชนิดนี้จะให้ผลผลิตได้หลายปี เช่น ชะอม มะกรูด เพกาที่สามารถทำเป็นค้างของต้นพริกไทยต่อไปได้อีก ซึ่งในส่วนของการเข้ามาดูแลของสำนักงานเกษตรอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ และสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ได้เข้ามาดูแลตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว
โดยได้เข้ามาขอคำปรึกษาตั้งแต่เริ่มปลูก ก็จะมีการแนะนำในเรื่องของการกำจัดการดูแลแมลงศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยที่มารบกวนพืชที่ปลูก หนอนชอน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดกระบี่ เข้ามาดูแลติดตามแนะนำให้ความรู้ในเรื่องของการแนะนำให้ความรู้กำจัดศัตรูพืช บางครั้งก็จะแนะนำในเรื่องของหลักวิชาการในการปลูกการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจากสารพิษสารเคมี ในการป้องกันกำจัดกำจัดศัตรูพืชจะใช้สารชีวภาพจำพวกน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์นำมาทดแทนปุ๋ยเคมี
จากการสอบถามพบว่าปัจจุบันพืชที่ปลูกไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและคิดว่าสวนปาล์มที่เหลืออยู่อีก 5 ไร่นี้ก็จะมีการล้มและปลูกพืชเกษตรแบบผสมผสานนี้ต่อไปเพราะแนวโน้มตลาดแล้วยังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมากเกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้จากการทำกิจกรรมเกษตรผสมผสาน ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงอาหาร ด้วยแหล่งอาหารที่ตนเองผลิตนับได้ว่าการทำเกษตรผสมผสานก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี