ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 เม.ย.63 ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ชื่อโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ที่เดินทางเข้าโรงรับจำนำและภายหลังทราบว่าท่านแอบไปไถ่ถอนเครื่องมือทำมาหากินให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน พร้อมกับบอกถ้าชาวบ้านคิดจะตอบแทนคุณขอให้ทำประโยชน์ให้สังคม จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงและมีการชื่นชมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกันอย่างกว้างขวาง
ล่าสุดวันที่ 17 ก.ค.63 ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย ได้แจ้งมายังผู้สื่อข่าวว่า เงินก้อนสุดท้ายก่อนที่ผู้ว่าฯ จะย้ายไปจังหวัดอื่นซึ่งสิ้นค้าที่ประชาชนเอามาจำนำทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือทำมาหากิน แม้กระทั่งโน็ตบุ๊คของเด็กนักเรียน นักศึกษา ที่เอามาจำนำไว้ก็ไถ่ไปหมดแล้ว ก็เหลือเครื่องคูโบต้า ที่หางตั๋วที่มาต่อดอกยาวเป็นหางว่าว ผู้ว่าฯได้ตกลงไถ่คืนให้ที่จำนำมานานกว่า 15 ปีด้วยจำนวนเงิน 6,000 บาท
นายสวัสดิ์ บรรพต อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองหญ้าไซ ตำบลนาดินดำ อำเภอเมือง จังหวัดเลย เปิดเผยว่า ตนเอาเครื่องคูโบต้ามาจำนำไว้ตั้งแต่ปี 2548 ในราคา 6,000 บาทเพื่อนำเงินไปส่งลูกเรียนที่บ้านยากจนหลังจากนั้นมาก็ตัดดอกมาตลอด เดือนละ 80 บาทเป็นระยะเวลากว่า 15 ปีเพราะตนไม่มีเงินมาไถ่ถอน ตอนทำนาก็ต้องจ้าง
"ดีใจมากที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ไถ่คืนให้ตั้งแต่จำนำมาลูกก็เรียนจบกันหมดแล้ว แต่จบ ม.3 เท่านั้น เพราะไม่มีเงินส่งเรียนต่อ จนตอนนี้ลูกอายุ 25 ปีแล้ว" นายสวัสดิ์ กล่าว
นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย เปิดเผยว่า หลังจากที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้นำเงินมาฝากไว้เพื่อไถ่ถอนเครื่องมือการเกษตรให้ชาวบ้าน ตนก็หาดูรายชื่อไถ่ให้จนครบ 154 คนและก็ตกใจว่าทำไมหางตั๋วที่ลูกค้ามาตัดดอกมันยาวเป็นหางว่าวเลย ก็ดูจึงรู้ว่าลูกค้านำเครื่องคูโบต้ามาจำนำไว้ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งระยะเวลานานพอสมควร 15 ปีด้วยจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ดูรายการที่มาต่อดอกแล้วเป็นลูกค้าชั้นดี
"จึงได้สอบถามไปยังท่านผู้ว่าฯ ท่านก็ตอบกลับมาว่าไถ่คืนชาวบ้านไปเถอะของทำมาหากิน จำนำไว้นานแล้ว จึงได้โทรแจ้งไปยังลูกค้าให้มารับ ซึ่งลูกค้าดีใจมากพร้อมกับนำผ้าขอม้ามาฝากให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอีกด้วย" นางบุศรา กล่าว