นายสุรินทร์ บุตรเงิน อายุ 57 ปี ชาวบ้านยาง หมู่ 1 ตำบลยาง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้เลี้ยงหอยโข่งไว้ขาย โดยนายสุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า บ้านตนอยู่ใกล้กับอ่างน้ำลำพอก เมื่อลงอ่างน้ำก็จะพบเจอหอยโข่งกับหอยเชอรี่บ่อย เลยมีแนวคิดขึ้นว่าจะเลี้ยงหอยขายดีหรือไม่ คิดดูก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรเมื่อคิดได้ดังนั้นตนจึงจัดเตรียมบ่อขุดดินกว้าง 1 เมตรยาว 3 เมตรกว่าโดยใช้พลาสติกปูพื้นความลึกประมาณ 50 ซม.ล้อมด้วยผ้าแยงเขียว สวนน้ำที่ใช้เลี้ยงจะเปลี่ยนอาทิตย์ละครั้ง

ส่วนหอยโข่งที่นำมาเลี้ยงนั้นตนจะหาตามอ่างน้ำลำพอก โดยจะเอามาแต่หอยโข่งอย่างเดียว ส่วนที่เป็นหอยเชอรี่จะไม่เอา ไปทีไรก็จะเอามาเรื่อยๆ นำมาลงไว้ในบ่อทุกวัน จนได้พอประมาณ ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงก็จะให้เป็นพืชตามหนองน้ำ เช่น จอก แหน ผักบุ้ง ผักตบ แม้แต่ใบมะละกอหอยก็ยังชอบกิน แล้วก็จะหาโฟมหรือไม้ มาเสียบปักไว้ ทำที่สูงใว้บ้างเพื่อให้หอยวางไข่ เมื่อหอยโข่งออกไข่ซึ่งไข่จะเป็นสีขาว แต่แตกต่างกับหอยเชอรี่ ถ้าหอยเชอรี่จะเป็นสีชมพู จากนั้นตนก็จะนำเอามารวมกันไว้ในตะกร้าจะไม่ให้โดนน้ำมากหรือแช่น้ำนานไข่จะเน่าเสีย ไม่นาน ไข่หอยเริ่มแก่ ออกดำคล้ำฟักตัวออกมา ก็จะลงในช่องตะกร้าเพราะเป็นรูอยู่แล้ว และก็ร่วงลงน้ำเลย

ส่วนตัวหอยโข่งจะแตกต่างกันกับหอยเชอรี่มากสังเกตง่ายๆ หอยเชอรี่ก้นขอดจะสั้นมีตัวใหญ่ปากกว้างคมกริบ ส่วนหอยโข่งจะปากเล็กกว่าก้นคอดมี 3 คอดยาวแหลม ดูง่าย น้ำหนักรวมกิโลก็จะประมาณ 16-17 ตัวต่อกิโลกรัม โดยเฉลี่ยก็จะตกอยู่ตัวละประมาณ 4 บาท ในการขายจะขายแบบทั้งตัวจะไม่แกะเอาหัวออก จะแตกต่างกับหอยเชอรี่หากเป็นหอยเชอรี่ จะเอาหัวออกได้เพราะหัวหอยเชอรี่จะเป็นหัวแข็ง ส่วนหัวหอยโข่งจะออกนิ่มและอ่อน จึงไม่นิยมเอาหัวออกแล้วขายเพราะจะเปื่อยง่าย ซึ่งหอยโข่งจะขายกิโลกรัมละ 80 บาททุกวันก็จะมีลูกค้าชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงมาซื้อกันเป็นประจำ

"ตอนนี้ผมเลี้ยงหอยโข่งไว้หลายบ่อทั้งเลี้ยงไว้ที่บริเวณบ้านและบริเวณทุ่งนา เดือนหนึ่งเฉลี่ยมีรายได้จากการขายหอยโข่ง ประมาณ 3,500 บาท ถึง 4,000 บาท ก็ถือว่าโอเค เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ลงทุนทีเดียวนิดหน่อยแต่รายได้มีเข้าตลอด หากว่าใครสนใจก็สั่งได้ ติดต่อได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 081 286 798"  นายสุรินทร์ บุตรเงิน ผู้เลี้ยงหอยโข่งกล่าว